27/4/2024

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันศุกร์ (26 เมษายน )

ว่า วอชิงตันพร้อมที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อจีน เนื่องจากจีนถ่ายโอนสินค้าและส่วนประกอบ ซึ่งคาดว่าจะนำไปใช้ในศูนย์อุตสาหกรรมทางทหารของรัสเซีย

ในงานแถลงข่าวในกรุงปักกิ่งภายหลังการพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน บลิงเคนกล่าวว่า วอชิงตันได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อหน่วยงานจีนมากกว่า 100 แห่งแล้ว และ "พร้อมอย่างเต็มที่ที่จะดำเนินการ" และ "ใช้มาตรการเพิ่มเติม"

บลิงเกนอ้างว่าจีนสนับสนุนอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศรัสเซีย ทำให้เกิดความกังวลไม่เพียงแต่เกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ “ภัยคุกคามระยะกลางถึงระยะยาวที่ชาวยุโรปจำนวนมากรู้สึกว่ารัสเซียต่อพวกเขา”

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา Wall Street Journal ยังรายงานด้วยว่าสหรัฐฯ กำลังร่างมาตรการคว่ำบาตรที่อาจตัดธนาคารจีนบางแห่งออกจากระบบการเงินโลก เว้นแต่ปักกิ่งจะตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับรัสเซีย

แหล่งข่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เชื่อว่าการค้ากับจีนทำให้รัสเซียสามารถสร้างขีดความสามารถด้านอุตสาหกรรมทางทหารขึ้นใหม่ได้ และสามารถช่วยเอาชนะยูเครนในสงครามที่ยืดเยื้อ

ในทางกลับกัน ปักกิ่งกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าหน้าซื่อใจคดที่ให้ความช่วยเหลือยูเครนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกันก็ “วิพากษ์วิจารณ์ความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจตามปกติระหว่างรัสเซียและจีนอย่างไร้เหตุผล”

“นี่เป็นแนวทางที่หน้าซื่อใจคดและขาดความรับผิดชอบ” หวัง เหวินปิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ เพื่อตอบโต้ต่อข้อกังวลของบลินเคนเกี่ยวกับการสนับสนุนมอสโกของปักกิ่ง

ในขณะเดียวกันผู้นำจีน สี จิ้นผิง กล่าวว่าสหรัฐฯ และจีนควรเป็น "หุ้นส่วนมากกว่าศัตรู" ในระหว่างที่เขาได้พบกับบลิงเคนที่ศาลาประชาคมในกรุงปักกิ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

การพูดคุยมีขึ้นในวันสุดท้ายของการเยือนจีนเป็นเวลาสามวันของบลิงเคน ในขณะที่ทั้งสองประเทศพยายามรักษาความสัมพันธ์และขยายการสื่อสารต่อไป รวมถึงความขัดแย้งหลายประเด็นตั้งแต่เทคโนโลยีไปจนถึงไต้หวัน

“จีนอยากเห็นสหรัฐอเมริกามีความมั่นใจ เปิดกว้าง และเจริญรุ่งเรือง เราหวังว่าสหรัฐฯ จะมองการพัฒนาของจีนในแง่บวก” สีบอกกับบลินเคน

“เมื่อปัญหาพื้นฐานนี้ได้รับการแก้ไขแล้ว … ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ จะดีขึ้นอย่างแท้จริงและก้าวไปข้างหน้า” เขากล่าว “จีนและสหรัฐอเมริกาควรเป็นหุ้นส่วนมากกว่าศัตรู ช่วยเหลือกันให้ประสบความสำเร็จมากกว่าทำร้ายกัน”

IMCT News

ที่มา RT, CNN