Thailand
ขอบคุณภาพจาก RT
13/7/2024
เมื่อพิจารณาจากหลายสิ่งอย่าง พบว่า BRICS และผู้ที่อยากจะทำการค้ากับกลุ่มนี้ ต้องนำเอามาตรฐานทองคำกลับมาใช้ เพียงบางส่วน หรืออาจจะทั้งหมด เพราะเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า BRICS กำลังจะหันไปใช้มาตรฐานทองคำ ซึ่งถ้าชาติตะวันตกต้องการค้าขายกับกลุ่ม BRICS เพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้า พวกเขาก็จำเป็นต้องตุนทองให้มากขึ้น
แต่ถ้าตะวันตกไม่อยากจะทำการค้ากับ BRICS พวกเขาก็ต้องปรับระบบห่วงโซ่การผลิตของตัวเองใหม่ให้ได้มากพอ ในแง่ของทรัพยากรธรรมชาติ หรือการนำเอากระบวนการผลิตส่วนที่สำคัญกลับคืนมายังประเทศตัวเอง หรือย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศเผด็จการมายังประเทศพันธมิตรของตัวเอง
เช่นสหรัฐ ที่ต้องปรับระบบห่วงโซ่การผลิตของตัวเองใหม่ เพื่อให้มีสินค้าโภคภัณฑ์มากพอ ถ้าไม่เช่นนั้น ก็ต้องค้าขายกับกลุ่ม BRICS ภายใต้เงื่อนไขที่ BRICS กำหนดขึ้น ซึ่งก็คือต้องมีทองคำเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ส่วน BRICS เอง ก็ต้องสร้างระบบห่วงโซ่การชำระเงินขึ้นมาใหม่ เพื่อมาแทนที่ระบบ SWIFT ของพวกตะวันตก ไม่เช่นนั้น ก็ต้องพึ่งพาระบบของสหรัฐต่อไป นั่นก็หมายถึงว่า ต้องใช้ดอลลาร์สหรัฐอยู่
แต่ถ้าตะวันตกเพิกเฉยกับทางเลือกนี้ คือ ไม่คิดที่จะทำให้ตัวเองมีสินค้าโภคภัณฑ์ที่มากพอในการบริโภค และไม่คิดที่จะใช้มาตรฐานทองคำในการค้าขายระหว่างประเทศ ท้ายสุดก็จะนำไปสู่ การถูกโดดเดี่ยว การจัดสรรอย่างไม่ถูกต้อง และการใช้ทรัพยากรแบบผิดๆ ท้ายสุด สถานการณ์จะบานปลายไปสู่สงคราม
จึงเป็นที่น่าจับตาว่า แผนการของ BRICS จะเป็นเช่นไรต่อ และกลุ่ม G7 จะมีวิธีการรับมืออย่างไรในอีก 5 ปีข้างหน้า
ในด้านสกุลเงิน BRICS อยู่ในกระบวนการจัดสร้างสกุลเงินของตัวเองไว้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน หรือ การทำการค้าระหว่างประเทศ โดยมีทองคำและสินทรัพย์อื่นหนุนหลัง เพื่อที่ต้องการแยกตัวจากอิทธิพลของดอลลาร์ สกุลเงินนี้ จะมีสินทรัพย์อื่นๆ มาหนุนหลัง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ สกุลเงินต่างๆ ตราสารหนี้ และอื่นๆ จึงมั่นใจได้ว่า จะเป็นสกุลเงินที่มีมูลค่าจริงๆ ต่อการใช้งาน เข้าถึงได้อย่างเป็นรูปธรรม
สกุลเงินของ BRICS นี้ จะใช้บล็อกเชน หรือเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายผ่านการเข้ารหัสทางคอมพิวเตอร์ โดยข้อมูลที่ถูกบันทึกจะส่งต่อข้อมูลไปยังทุกคนในเครือข่าย ซึ่งยากต่อการปลอมแปลงข้อมูล เพราะทุกคนจะรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทำให้บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูง
มีความเชื่อกันว่า ธนาคารกลางของกลุ่ม G7 ซึ่งก็คือพวกตะวันตก จำเป็นที่จะต้องมีสกุลเงิน BRICS สำรองเอาไว้เช่นกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจของพวกเขาเอง ธนาคารกลางกลุ่ม G7 และกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ จะแห่สะสมสินทรัพย์ เช่น ทองคำ และ เงิน อย่างต่อเนื่อง ภายใต้ระบบสินทรัพย์ที่ไม่เสื่อมมูลค่าไปง่ายๆ อย่างที่ BRICS จัดสร้างขึ้น หรือ ธนาคารกลางกลุ่ม G7 อาจสร้างตะกร้าเงินของตัวเองขึ้นมาใหม่ โดยเลียนแบบกลุ่ม BRICS ซึ่งจะประกอบไปด้วยสกุลเงินของฟากตะวันออก ตราสารหนี้ และทองคำ และมีแนวโน้มเป็นตะกร้าเงินในรูปแบบเดียวกับ IMF/SDR เป็นสินทรัพย์สำรองระหว่างประเทศที่สร้างขึ้นโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ
กว่าสิบปีมาแล้ว ที่มีการหารือกันเรื่องการถอยห่างจากดอลลาร์สหรัฐ จนเมื่อไม่นานมานี้ แนวคิดนี้ ได้ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น นำโดยกลุ่ม BRICS ที่วางสถานะตัวเองขึ้นมาถ่วงดุลกับอิทธิพลตะวันตก และการจะทำเช่นนั้นได้ BRICS จำเป็นต้องมีสองส่วนที่สำคัญ คือ ระบบสกุลเงินที่เป็นอิสระ และกรอบการทำงานด้านความมั่นคงทางการเมืองและกองทัพในกลุ่มประเทศสมาชิก ซึ่งในประเด็นหลังนี้ ยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน แต่การรังสรรค์สกุลเงินทางเลือก ในไม่ช้า น่าจะเห็นเป็นรูปเป็นร่าง
BRICS กำลังคืบหน้าในสามเรื่องด้วยกัน เพื่อจัดตั้งสกุลเงินสากลใหม่ เรื่องแรกคือการนำเอามาตรฐานทองคำมาใช้ เรื่องสองคือการจัดตั้งระบบการชำระเงินโดยใช้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง และเรื่องสามคือการส่งเสริมสินทรัพย์ดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง หรือ CBDC
เป้าหมายของ BRICS คือการปรับรูปทรงเศรษฐกิจโลกใหม่ ท้าทายมหาอำนาจดอลลาร์สหรัฐ กลุ่ม BRICS กำลังเพิ่มการตุนทองคำ จนตอนนี้ มีอยู่แล้วทั้งสิ้น 6,300 ตัน ในฐานะที่เป็นกลุ่มที่ซื้อทองคำรายใหญ่สุดในโลกนับจากปี 2022 เป็นสัญญาณชัดเจนถึงเจตนารมณ์ที่จะพัฒนาสกุลเงินโลกใหม่
ความสำเร็จของสกุลเงินใหม่นี้ จะช่วยสร้างเสริมความแข็งแกร่งในด้านเศรษฐกิจและประชากรให้กับกลุ่ม BRICS ซึ่งมีจีดีพีรวมกันคิดเป็น 29.5 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,000 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 30% ของจีดีพีโลก อีกทั้งจำนวนประชากรก็มีมากถึง 3,500 ล้านคน จึงเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของสกุลเงินใหม่ที่จะนำมาใช้หมุนเวียน
การจะแยกตัวจากระบบการเงินตะวันตกได้สำเร็จ BRICS จึงกำลังพัฒนาระบบการชำระเงินของตนเอง และสร้างความแข็งแกร่งให้สกุลเงินดิจิทัล กระทรวงการคลังรัสเซีย กำลังจัดทำแพลทฟอร์มเพื่ออำนวยความสะดวกในการโยกย้ายเงินตราระหว่างประเทศสมาชิก เป้าหมายเพื่อลดผลกระทบจากการถูกตะวันตกคว่ำบาตร
จีนถือเป็นผู้นำในการนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้งาน แม้ว่า ปัจจุบัน ยังจำกัดการใช้แค่ภายในประเทศ แต่ก็มีการหมุนเวียนอย่างมาก จีนกำลังขยายโครงการ CBDC ข้ามพรมแดน หรือที่เรียกว่า mBridge ครอบคลุมถึงฮ่องกง ไทย สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ และอีก 25 ประเทศผู้สังเกตการณ์
รัสเซียก็คืบหน้าเรื่องรูเบิ้ลดิจิทัลเช่นกัน เปิดตัวโครงการนำร่องในเดือนสิงหาคม 2023 สกุลเงินดิจิทัลนี้ เป็นที่ยอมรับกันใน 11 เมืองของรัสเซียตอนนี้ โดยมีแผนจะขยายมากขึ้น
By IMCT News
อ้างอิงจาก https://www.zerohedge.com/news/2024-07-09/brics-will-use-gold-standard
© Copyright 2020, All Rights Reserved