ขอบคุณภาพจาก CGTN
6/7/2024
Nvidia กำลังจะขายชิปปัญญาประดิษฐ์มูลค่า 12,000 ล้านดอลลาร์ในจีนในปีนี้ (2024) แม้ว่าสหรัฐฯ จะควบคุมการส่งออกจนทำให้ธุรกิจในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกต้องหยุดชะงัก
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากลุ่มบริษัทในซิลิคอนวัลเลย์ที่มีมูลค่า 3 ล้านล้านดอลลาร์นี้ จะส่งมอบชิป H20 ใหม่มากกว่า 1 ล้านชิ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้หลุดพ้นจากข้อจำกัดในการขายโปรเซสเซอร์ AI ให้กับลูกค้าชาวจีนของสหรัฐฯ
ตามการประมาณการของ SemiAnalysis ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านชิป ระบุว่าตัวเลขดังกล่าวคิดเป็นเกือบสองเท่าของที่คาดว่า Huawei จะขายผลิตภัณฑ์คู่แข่งที่ผลิตในจีนอย่าง Ascend 910B ได้
Nvidia เป็นบริษัทล่าสุดในซิลิคอนวัลเลย์ที่พบว่าตัวเองพัวพันกับความตึงเครียดระหว่างวอชิงตันและปักกิ่ง ซึ่งฝ่ายบริหารของไบเดนต้องการหยุดยั้งการไหลเวียนของชิปที่ทรงพลังที่สุดในโลกไปยังจีน โดยเกรงว่าปักกิ่งอาจใช้ชิปเหล่านี้เพื่อสร้างระบบ AI ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นพร้อมการใช้งานทางการทหาร
การขาดแคลนชิป AI ที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อความสามารถของกลุ่มเทคโนโลยีของจีน เช่น ByteDance, Tencent และ Alibaba ในการแข่งขันกับ OpenAI, Microsoft, Meta และ Google ที่มีฐานอยู่ในสหรัฐอเมริกาในเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมนี้ ชิป H20 แต่ละตัวมีราคาอยู่ระหว่าง 12,000 ถึง 13,000 ดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Nvidia น่าจะสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 12,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะมากกว่ารายได้ 10,300 ล้านดอลลาร์ที่ได้จากธุรกิจทั้งหมดในจีน ซึ่งรวมถึงการขายชิปกราฟิกให้กับเกมเมอร์พีซีและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมกราคม 2024
ขณะเดียวกัน Nvidia ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการคาดการณ์ ส่วน Huawei ก็ไม่ตอบสนองต่อคำขอแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้
นับตั้งแต่ฝ่ายบริหารของไบเดนได้ออกข้อจำกัดเกี่ยวกับความสามารถของ Nvidia ในการขายชิป AI ที่ทรงพลังที่สุดในประเทศจีนเป็นครั้งแรกในปี 2022 บริษัทของสหรัฐฯ ก็ได้เตือนว่าธุรกิจของตนจะได้รับผลกระทบเนื่องจากผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งและสตาร์ทอัพด้าน AI ในจีนหันไปหาทางเลือกในท้องถิ่น เช่น Huawei
“ธุรกิจของเราในจีนต่ำกว่าระดับในอดีตอย่างมาก” Jensen Huang ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nvidia กล่าวระหว่างการรายงานผลประกอบการล่าสุดของบริษัทในเดือนพฤษภาคม
“ตอนนี้การแข่งขันในจีนมีมากขึ้นเนื่องจากข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีของเรา อย่างไรก็ตาม เรายังคงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้บริการลูกค้าในตลาดที่นั่น” Colette Kress หัวหน้าฝ่ายการเงินของ Nvidia กล่าว พร้อมระบุว่ารายได้จากกลุ่มศูนย์ข้อมูล ซึ่งรวมถึงชิป AI ในจีนในไตรมาสล่าสุดนั้น “ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากระดับก่อนที่จะมีการกำหนดข้อจำกัดการควบคุมการส่งออกใหม่ในเดือนตุลาคม”
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2021 ก่อนที่สหรัฐฯ จะเริ่มบังคับใช้การควบคุมการส่งออก จีนมีส่วนแบ่งรายได้รวมของ Nvidia มากกว่าหนึ่งในสี่ แม้ว่าชิป H20 จะขายดีตามที่นักวิเคราะห์คาดไว้ แต่จีนอาจมีส่วนแบ่งยอดขายใกล้เคียงร้อยละ 10 ในปีนี้ แต่นั่นยังสะท้อนถึงการเติบโตอย่างมากที่ Nvidia มองเห็นจากบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ขณะที่พวกเขาสร้างระบบ AI ที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่ายอดขายของ Nvidia ในจีนจะต่ำกว่าก่อนเปิดตัว H20 ใหม่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีนี้
ด้านนักวิเคราะห์จากทั้ง Morgan Stanley และ SemiAnalysis กล่าวว่าขณะนี้ ชิปดังกล่าวได้รับการจัดส่งในปริมาณมากและได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวจีน แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อเทียบกับชิปที่ Nvidia สามารถขายในสหรัฐฯ ได้ Morgan Stanley เขียนไว้ในบันทึกการวิจัยถึงลูกค้าว่า “ผู้ซื้อรายงานผลตอบรับเชิงบวกเกี่ยวกับศักยภาพในการแข่งขันของคลัสเตอร์ H20” โดยชี้ให้เห็นถึง “ความต้องการที่แข็งแกร่งในจีน”
ขณะที่ Dylan Patel จาก SemiAnalysis กล่าวว่าในทางปฏิบัติแล้วชิปของ Nvidia นั้น "เหนือกว่า (Huawei) พอสมควร" เนื่องจากประสิทธิภาพหน่วยความจำที่เหนือกว่า เขาคาดว่า Huawei จะขายชิป 910B ได้ประมาณ 550,000 ชิ้นในช่วงเวลาเดียวกัน เนื่องจากบริษัทในเซินเจิ้นและพันธมิตรด้านการผลิตต้องดิ้นรนเพื่อผลิตโปรเซสเซอร์ที่ซับซ้อนในปริมาณมากพอที่จะตอบสนองความต้องการ บริษัท AI ของจีน ที่ส่วนใหญ่ยังสร้างโมเดล AI ของตนเองบนระบบนิเวศและซอฟต์แวร์ของ Nvidia ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้โครงสร้างพื้นฐานของ Huawei จะต้องใช้เวลาและต้นทุนสูง
ด้านรัฐบาลของ Biden ได้กำหนดข้อจำกัดต่อความสามารถของ Nvidia ในการขายชิปที่มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึง A100 และ H100 ไปยังจีนในเดือนตุลาคม 2022 และยังได้เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมดังกล่าวเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งไม่รวมชิปรุ่นใหม่ของ Nvidia ด้วยเช่นกัน
ในเดือนพฤศจิกายน (2023) Nvidia ได้เริ่มทำการตลาดชิปชุดใหม่ที่ปรับให้เหมาะกับจีน ซึ่ง H20 เป็นชิปที่มีประสิทธิภาพสูงสุด หากรวมชิปสำหรับเกมเมอร์พีซี ศูนย์ข้อมูล และลูกค้ารายอื่นๆ แล้ว จีนคิดเป็นประมาณร้อยละ 9 ของรายได้รวมของ Nvidia ในไตรมาสล่าสุดซึ่งสิ้นสุดในเดือนเมษายน ซึ่งลดลงจากร้อยละ 22 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม รายได้รวมจากจีน รวมถึงฮ่องกง ยังคงเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว โดยเติบโตมากกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 2,500 ล้านดอลลาร์
IMCT News
ที่มา https://www.ft.com/content/b76ef55b-21cd-498b-ac16-5660908bb8d2