ฮ่องกงเปลี่ยนโฉม! จีนกุมบังเหียนศูนย์กลางการเงิน วอลล์สตรีตเผยปักกิ่งยึดฮ่องกงเบ็ดเสร็จ

17-11-2024

ฮ่องกง อดีตประตูการค้าและการเงินที่เชื่อมตะวันออก-ตะวันตก กำลังเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่ภายใต้อิทธิพลของปักกิ่ง โดยสถาบันการเงิน บริษัท และชาวต่างชาติตะวันตกทยอยถอนตัวด้วยความเร็วที่น่าตกใจ

ภาพสะท้อนชัดเจนในพิธีเปิดการซื้อขายกองทุนคริปโตเคอร์เรนซีที่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อต้นปี เมื่อบอนนี่ ชาน CEO คนใหม่ กล่าวสุนทรพจน์เป็นภาษาจีนกลางแทนอังกฤษหรือกวางตุ้งตามธรรมเนียมเดิม โดยไม่มีการแปลภาษา สร้างความอึดอัดให้นักธุรกิจตะวันตกที่ไม่เข้าใจแม้แต่คำเดียว

สถิติชี้ชัด ธนาคารต่างชาติมีบทบาทในการเสนอขายหุ้น IPO เหลือเพียง 20% ร่วงจาก 50% เมื่อ 2 ปีก่อน ขณะที่ธนาคารจีนอย่าง Citic Securities และ CICC แซงหน้าเป็นผู้ทำรายได้สูงสุดในภูมิภาคตั้งแต่ปี 2565 ส่งผลให้ Goldman Sachs, Morgan Stanley และ UBS ต้องปลดพนักงานหลายรอบในเอเชีย พร้อมกับสำนักกฎหมายระหว่างประเทศที่แข่งขันไม่ได้กับคู่แข่งจีนที่คิดค่าบริการถูกกว่า

ตลาดทุนฮ่องกงก็เปลี่ยนโฉม 79% ของบริษัทจดทะเบียนใหม่ไม่ใช้บริการธนาคารต่างชาติ บริษัทจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีสำนักงานใหญ่ในฮ่องกงมีจำนวนมากกว่าบริษัทอเมริกันครั้งแรกในรอบ 30 ปี และครองมูลค่าตลาดหุ้น 80% เพิ่มจาก 60% เมื่อ 10 ปีก่อน

แม้แต่วัฒนธรรมก็เปลี่ยนไป บาร์ Iron Fairies อดีตแหล่งรวมนักธุรกิจตะวันตก ปัจจุบันเต็มไปด้วยลูกค้าจีนที่สั่งเหล้าเป็นขวด วงดนตรีแจ๊สต้องหัดร้องเพลงจีนยุค 70 อย่าง "The Moon Represents My Heart" ขณะที่บาร์ Sevva ใกล้สำนักงาน HSBC ปิดตัวหลัง 16 ปี ถูกแทนที่ด้วยร้านอาหารจีนแผ่นดินใหญ่

เจมี่ ไดมอน CEO JPMorgan ที่เยือนฮ่องกงเมื่อเดือนพฤษภาคม เรียกร้องให้ยังคงความสัมพันธ์กับจีน แม้จะหันมาเน้นความมั่นคง การทหาร และการพัฒนาภายใน แต่นักธนาคารตะวันตกหลายรายกังวลว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะกระทบความหลากหลายและความโปร่งใสของฮ่องกง

ธนาคารจีนมักพร้อมปล่อยกู้ให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนที่เกินความต้องการ และกองทุนรัฐบาลท้องถิ่นที่เป็นหนี้สูง บางส่วนเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ นำไปสู่การเข้มงวดมาตรฐานการปล่อยกู้มากขึ้น

ผู้บริหารบริษัทจีนมองว่า ธนาคารจีนให้บริการดีกว่า คิดค่าธรรมเนียมถูกกว่า และมีเครือข่ายในจีนกว้างขวางกว่า แม้จะมีขนาดเล็กในต่างประเทศ ฮ่องกงยังจำเป็นสำหรับการระดมทุนนอกจีน แต่ไม่จำเป็นต้องพึ่งธนาคารตะวันตกเป็นผู้เปิดประตูอีกต่อไป

รัฐบาลฮ่องกงปฏิเสธว่าการมีบริษัทจีนมากขึ้นจะทำให้เป็นเพียงเมืองหนึ่งของจีน ยืนยันยังเป็นศูนย์กลางการเงินระดับโลก ติดอันดับ 3 ร่วมกับนิวยอร์กและลอนดอน แม้จะเผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวและความสัมพันธ์สหรัฐ-จีนที่อาจตึงเครียดขึ้น หลังทรัมป์ชนะเลือกตั้งและเตรียมขึ้นภาษีสินค้าจีน 60%

IMCT NEWS

ที่มา https://www.wsj.com/world/china/hong-kong-banking-china-financial-hub-eb0dfa86