Thailand
ขอบคุณภาพจาก RT
11/7/2024
ราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่จากรัฐบาลพรรคแรงงาน ระบุว่ารัฐบาลชุดใหม่ของสหราชอาณาจักรต้องรับมือสถานการณ์เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
รีฟส์เข้ามาดูแลการเงินของประเทศหลังจากที่พรรคแรงงานได้รับที่นั่ง 412 ที่นั่งจากทั้งหมด 650 ที่นั่งในสภาสามัญชนในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดการปกครองของพรรคอนุรักษ์นิยมที่นาน 14 ปี
“ฉันเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าใครก็ตามที่ชนะการเลือกตั้งทั่วไป จะต้องได้รับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง” รีฟส์กล่าวในสุนทรพจน์ที่กระทรวงการคลังเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (8 ก.ค.) “เราเผชิญกับมรดกแห่งความโกลาหลและการขาดความรับผิดชอบทางเศรษฐกิจตลอด 14 ปี”
รีฟส์กล่าวหาว่าผู้ดำรงตำแหน่งคนก่อนๆ ของพรรคอนุรักษ์นิยมกระทำการโดย“ผลประโยชน์ส่วนตนทางการเมือง” โดยเป็นส่วนหนึ่งของ “รัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับพรรคเป็นอันดับแรก ส่วนประเทศมาเป็นที่สอง”
“การวิเคราะห์ใหม่ของกระทรวงการคลังที่ฉันร้องขอในช่วงสุดสัปดาห์แสดงให้เห็นว่า หากเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรเติบโตในอัตราเฉลี่ยของ OECD [องค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา] ในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของเราจะมีมูลค่ามากกว่า 140,000 ล้านปอนด์ ใหญ่กว่า [179,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ]” รีฟส์กล่าว พร้อมอ้างว่านโยบายของพรรคอนุรักษ์นิยมทำให้งบประมาณของสหราชอาณาจักรเสียไปถึง 58,000 ล้านปอนด์ (74,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) จากรายได้จากภาษีที่สูญเสียไปในปีที่แล้ว (2023) เพียงอย่างเดียว
“เงินนั้นสามารถฟื้นฟูโรงเรียน โรงพยาบาล และบริการสาธารณะอื่นๆ ของเราได้” รีฟส์กล่าว “การเติบโตจำเป็นต้องมีทางเลือกที่ยากลำบาก ซึ่งเป็นทางเลือกที่รัฐบาลชุดก่อน ๆ หลีกเลี่ยง”
รีฟส์ให้คำมั่นว่าจะยุติ “ความขลาดทางการเมือง” ใน “ระบบการวางแผนที่ล้าสมัย” ของสหราชอาณาจักร และให้คำมั่นว่าจะปฏิรูป โดยยังคงมุ่งมั่นที่จะ “ไม่เพิ่มค่าประกันแห่งชาติ และอัตราภาษีเงินได้หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งขั้นพื้นฐาน สูงกว่า หรือเพิ่มเติม”
ตามรายงานของเดอะการ์เดียน การขาดดุลของสหราชอาณาจักรขึ้นถึงระดับสูงสุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1960 ภายใต้รัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยมมานานกว่าทศวรรษ ในขณะที่ประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก"ผลกระทบร้ายแรง รวมถึง Brexit การระบาดใหญ่ของโควิด และวิกฤตค่าครองชีพ"
ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาว่า GDP ของสหราชอาณาจักรจะเติบโตร้อยละ 0.5 ในปีนี้
IMCT News
© Copyright 2020, All Rights Reserved