ผลสอบโจมตี“โครคัส” เปิดข้อบ่งชี้“ใครอยู่เบื้องหลัง
36 0C
Thailand
Thailand
26/3/2024
พันเอก Andrei Prispeshkin หัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงการก่อการร้ายในศาลาว่าการเมืองโครคัส หรือ FSB เปิดเผยผลการสิบสวนระหว่างการแถลงข่าวเมื่อคืนนี้ว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมผิดสังเกตหลายอย่างที่น่าสนใจที่อาจบ่งบอกว่า เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ใครเป็นผู้วางแผนและสั่งการ
เขาบอกว่า จากประสบการณ์ส่วนตัวและประสบการณ์ในปฏิบัติการระหว่างประเทศ เขาเชื่อว่า มีทีมใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างน้อย 20-25 คน
ในข่าวเราอาจจะเห็นแค่ตัวแสดงเพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่มีร่องรอยและหลักฐานที่เชื่อได้ว่า ยังมีผู้คนอีกจำนวนมากที่เข้าร่วมในเหตุการณ์การโจมตีขนาดใหญ่ครั้งนี้
พันเอก Prispeshkin บอกว่า พบข้อมูลว่า บางคนทำการลาดตระเวนในพื้นที่ ในขณะที่คนอื่น ๆ ศึกษาเอกสารทางเทคนิคของ Crocus และอีกคนจำนวนหนึ่งทำหน้าที่เป็นกองกำลังติดอาวุธและประกอบอาวุธประเภทอื่น
เขาบอกว่า ในความคิดของเขา งานนี้มีการเตรียมพร้อมมาอย่างดี และมีความละเอียดรอบคอบ ที่น่าจะมีการวางแผนล่วงหน้าไว้แล้ว
พันเอก Prispeshkin ยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นทันที หลังจากเกิดเหตุระเบิดจากระเบิดมือ หรือ ค็อกเทลโมโลตอฟ เขาเชื่อว่า มีการวางวัสดุไวไฟเพิ่มเติมไว้ในห้องบางห้อง และมีการลอบวางเพลิงในส่วนต่างๆ ของอาคาร ทุกอย่างถูกจัดเตรียมอย่างระมัดระวัง ผู้ที่ก่ออาชญากรรมร้ายแรง คือ ฟันเฟืองในเครื่องจักรที่ปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมาย
พวกเขามีการเตรียมการบางอย่างก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน บางทีคนเหล่านั้น อาจมีส่วนร่วมในสงครามในบางสมรภูมิมาแล้ว
อาจจะเป็นในยูเครน เอเชียกลาง หรือ ปาเลสไตน์
หากคุณไม่เคยมีประสบการณ์การใช้อาวุธ และสู้รบมาก่อน คุณไม่มีวันจะนิ่งพอสำหรับปฏิบัติการขนาดนี้ แม้ว่าจะอยู่ภายใต้ฤทธิ์ของยาออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทบางชนิดก็ตาม
พันเอก Prispeshkin บอกว่า สำหรับเขา งานถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะต้องสังหารเหยื่อให้ได้มากที่สุด และต้องสร้างภาพการโจมตีของผู้ก่อการร้ายให้ร้ายแรง และรุนแรงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
”มีการจุดไฟเพื่อให้ผู้คนที่สำลักควันตกใจ และกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว โดยไม่สนใจว่า คน ๆ หนึ่งจะเสียชีวิตอย่างไร ทั้งจากกระสุนหรือจากควัน ยิ่งภาพออกมาแย่เท่าไร ผลกระทบก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น“
พันเอก Prispeshkin ในการสอบสวนและสืบสวน เราไม่พบความเกี่ยวข้องกับ ISIS ทั้งจากผู้สืบสวนของเรา หรือจากการสอบปากคำพวกเขา เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขา ที่เคยสัมผัสกับพฤติกรรมสมาชิกของ ISIS Prispeshkin เชื่อว่า ถ้าคนเหล่านี้เป็นสมาชิกของ ISIS จริง คนเหล่านี้พร้อมจะเปิดเผยตัวว่า เป็นISIS ทันทีที่ถูกจับ
นอกจากนี้ ISIS มักมีพฤติกรรมแตกต่างออกไป เช่น เข็มขัดฆ่าตัวตาย การลอบวางระเบิด การจับตัวประกัน แต่ในปฏิบัติการที่โครคัส กลยุทธ์และวิธีการที่ใช้กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
พันเอกPrispeshkin เชื่อว่า การโจมตีของผู้ก่อการร้ายได้รับการฝึกฝน สนับสนุน และดำเนินการโดยหน่วยข่าวกรองตะวันตกแห่งหนึ่ง
เขาบอกว่า คงกล่าวหาว่าใครเป็นคนทำไม่ได้ หากไม่มีหลักฐานที่บ่งชัด แต่ในโลกนี้มีประเทศที่มีทีมข่าวกรองที่ทรงพลังที่สุดแค่สองแห่งมาโดยตลอด คือ CIA ของสหรัฐอเมริกา และ MI6 ของสหราชอาณาจักร
ล่าสุดหน่วยงานที่เข้มแข็งที่สุดและมีความพร้อมสำหรับปฏิบัติการในโลกอาหรับ หลายคนอาจคิดว่า คือ CIA แต่ในความเป็นจริง พันเอกPrispeshkin บอกว่า CIA อาจต้องหลบให้ MI6 เพราะล่าสุด MI 6 ให้ความสำคัญกับเอเชียกลาง ตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งก็คือโลกอาหรับ
ภารกิจของ MI6 ตอนนี้คือการเขย่าขวัญ และแบ่งสังคม ให้คริสเตียนออร์โธดอกซ์ต่อต้านมุสลิม รัสเซียต่อต้านทาจิกิสถาน เป็นต้น
อย่างไรก็ตามในการแถลงข่าว พันเอกPrispeshkin เลี่ยงที่จะระบุว่า เขาเชื่อว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสั่งการครั้งนี้
IMCT News
อ้างอิง : สำนักข่าว Sputnik
