ขอบคุณภาพจาก RT

24/10/2024

ประเด็นเศรษฐกิจสหรัฐกลายเป็นประเด็นใหญ่ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ใกล้เข้ามา  นักวิเคราะห์และคนอเมริกันทั่วไป ต่างเห็นปัญหาในแนวเดียวกันคือ เงินเฟ้อ ราคาบ้าน และความเสี่ยงที่เชื่อมโยงกับหนี้ประเทศ 35.7 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,200 ล้านล้านบาท   แต่ตอนนี้  ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ  กลับมองว่า ยังมีอีกปัญหาที่น่าวิตก

ปัญหานั้นก็คือ เงินสด 13 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 429 ล้านล้านบาท ที่ถูกเก็บไว้ยังธนาคารหลายแห่งในต่างประเทศ ที่อาจคุกคามสหรัฐและความมั่นคงของการเงินโลก  ซ้ำรอยวิกฤติการเงินในปี 2008  ซึ่งทำให้หลายพื้นที่ในโลกเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ยาวนานหลายปี

ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ  ต้องการจะย้ำถึงความเสี่ยงในประเด็นนี้  เพราะเงินสด 13 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 429 ล้านล้านบาท ที่ถูกเก็บไว้ยังธนาคารหลายแห่งในต่างประเทศ ซึ่งไม่ใช่ธนาคารของสหรัฐ   ล้วนแต่เป็นเงินฝากในรูปดอลลาร์ที่ไม่มีการค้ำประกัน หรือการคุ้มครองทางการเงินใดใดทั้งสิ้น   และตอนนี้ เราก็เห็นถึงความเครียดที่เกิดกับตลาดเงินดอลลาร์สหรัฐในยุโรปแล้ว ซึ่งกำลังบั่นทอนเศรษฐกิจทั่วโลก  เช่นเดียวกับที่เคยเกิดในช่วงวิกฤติปี 2008

แม้ธนาคารกลางสหรัฐจะคุมสภาพคล่องการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศกับธนาคารกลางที่เลือกไว้แล้ว   แต่ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ  เชื่อว่า ยังมีงานอีกมากที่ผู้กำกับนโยบายจะต้องทำเพื่อรับประกันว่า ตลาดเงินดอลลาร์สหรัฐในยุโรป  หรือเงินดอลลาร์สหรัฐที่ฝากไว้ในบัญชีเงินฝากประจำในธนาคารต่างแดนจะมีความยืดหยุ่นต่อสถานการณ์

เขายังชี้ให้เห็นถึงมาตรการที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ นำมาใช้ หลังเกิดวิกฤติการเงินในปี 2008  เพื่อปฏิรูปกองทุนตลาดเงิน   รวมถึงเหตุการณ์ในช่วงที่ความเครียดถูกเติมเข้ามาในระบบเศรษฐกิจ ตอนที่นักลงทุนพากันเทขายหุ้นอย่างรวดเร็วเพื่อเก็บเป็นเงินสดในปี 2020 และช่วงเศรษฐกิจขาลงยุคโควิดระบาด ซึ่งส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ในโลก

ความเห็นของประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ   มีขึ้นในช่วงที่มีสัญญาณเตือนว่า สหรัฐอาจมุ่งหน้าเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย  ในขณะที่นักลงทุนและหลายประเทศต่างแห่ตุนทองคำ  ซึ่งถือเป็นที่พักทางการเงินอันปลอดภัย ในช่วงเศรษฐกิจเกิดปัญหา อีกทั้งกลุ่มประเทศในซีกโลกใต้ ก็เดินหน้าถอยห่างจากสถาบันการเงินโลกที่สหรัฐคุมอยู่  เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการจัดระเบียบโลก และเศรษฐกิจที่มีสหรัฐเป็นผู้นำ

By IMCT News

อ้างอิงจาก https://sputnikglobe.com/20241022/13-trln-in-offshore-cash-hanging-over-us-economy-like-sword-of-damocles-regulator-reveals-1120646996.html