ชาวฝรั่งเศสเบื่อ'โลกาภิวัตน์' จึงเลือกขวาสุด
36 0C
Thailand
Thailand
ขอบคุณภาพจาก RT
3/7/2024
Rachel Marsden นักยุทธศาสตร์การเมือง เผยแพร่มุมมองผ่าน RT ถึงการเลือกตั้งทั่วไปในฝรั่งเศส ที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่กลับเป็นกลุ่มขวาจัดที่ได้รับคะแนนเสียงและเอาชนะทีมของเขาในการเลือกตั้ง ทั้งการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปเมื่อเดือนที่แล้ว (มิ.ย.2024) และการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกที่เพิ่งปิดฉากลงไปเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา จนต้องจับตาการเลือกตั้งทั่วไปฝรั่งเศสรอบที่ 2 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้อย่างใกล้ชิด
เห็นได้ชัดว่า มาครงคิดว่า แม้ว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวฝรั่งเศสจะสนับสนุนพรรค National Rally ของ Marine Le Pen ที่จะควบคุม Eurocrats ของบรัสเซลส์ แต่แน่นอนว่าพวกเขายังคงพบว่าสิ่งที่เรียกว่า “ขวาจัด” น่ากลัวเกินไปในการเลือกตั้งระดับชาติ ดังนั้นมาครงจึงจุดชนวนสิ่งที่อาจถือเป็นข้อผิดพลาดที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมือง
แม้ว่าผลสำรวจของ Ipsos ในเดือนพฤษภาคมจะระบุว่า ชาวฝรั่งเศสร้อยละ 39 มองคะแนนเสียงของตนในระดับสหภาพยุโรปผ่านความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะยุติมาครง แต่เขากลับยุบสภาฯ ซึ่งส่งเสริมความกล้าให้พวกเขาเดินหน้าครั้ง
ครั้งนี้ทีม Macron ไม่ได้มาเป็นอันดับสองด้วยซ้ำ ในการลงคะแนนเสียงรอบแรกจากสองรอบ โดยได้คะแนนมาเป็นอันดับสาม ซึ่งคาดว่าจะมีสัดส่วนร้อยละ 20
ขณะที่ผู้ชนะอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งคือพรรค National Rally ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวาที่นำโดย Marine Le Pen ด้วยคะแนนประมาณร้อยละ 33 และแนวร่วม New Popular Front อยู่ในอันดับที่สองด้วยคะแนนประมาณร้อยละ 28
กลุ่ม “ขวาจัด” ที่ถูกใส่ร้ายป้ายสี ไม่เพียงแต่ชนะการลงคะแนนเสียงรอบนี้เท่านั้น แต่ขณะนี้ยังมีการพูดถึงว่าพวกเขาอาจได้ที่นั่งระหว่าง 260 ถึง 310 ที่นั่งในรัฐสภาแห่งชาติ ที่มีที่นั่งทั้งหมด 577 ที่นั่ง จากการที่ 289 ที่นั่ง เป็นจำนวนที่ต้องได้สำหรับการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ตามการวิเคราะห์และการสำรวจ ของ Elabe
ดังนั้น ขณะนี้ เมื่อพรรคของมาครงถูกกวาดล้าง เหลือฝ่ายค้านอยู่ฝ่ายขวาและซ้าย การ์ดการเมืองจึงได้รับการสับเปลี่ยนสำหรับการลงคะแนนเสียงรอบสองในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ (7 ก.ค.) ซึ่งถูกกำหนดไว้เพื่อตัดสินจิตใจและจิตวิญญาณแห่งอุดมการณ์ที่แท้จริงของฝรั่งเศส
ด้วยการเดิมพันที่พ่ายแพ้นี้ มาครงแทบจะรับประกันตัวเองว่าตัวเองจะมีช่วงสามปีสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาในฐานะกัปตันที่ล่องลอยไปในทางนิติบัญญัติ และต่อสู้กับลูกเรือ ไม่ว่าเขาจะลงเอยด้วยในรัฐบาลในท้ายที่สุดหรือไม่ ซึ่งทั้งสองฝ่ายของการแบ่งแยกทางการเมืองที่ต่อต้านการจัดตั้งทางขวาและซ้ายกำลังเฉลิมฉลองสิ่งนั้น
“การลงคะแนนเสียงครั้งนี้สร้างความพ่ายแพ้อย่างหนักและไม่อาจปฏิเสธได้สำหรับประธานาธิบดี ผู้สมัครของเขา และผู้ที่เรียกว่าเสียงข้างมากของประธานาธิบดี” ฌอง-ลุค เมลองชง ผู้นำแนวร่วมฝ่ายซ้ายกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ผู้สมัครพรรคของเขาที่กำลังลงสมัครอยู่ในอันดับที่ 3 ที่กำลังเข้าสู่รอบสุดท้ายลาออก หากพรรค National Rally มีโอกาสที่จะชนะ แม้ว่าพวกเขาจะผ่านเกณฑ์คะแนนเสียง (ร้อยละ 12.5 ของผู้ลงคะแนนที่ลงทะเบียนแล้ว) เพื่อการลงคะแนนเสียงรอบที่สองแล้วก็ตาม
และถึงแม้ว่าสถาบันโลกาภิวัตน์ที่คดโกงนั้นเพิ่งจะถูกฝังไป แต่อิทธิพลของมันยังคงหลอกหลอนภูมิทัศน์ทางการเมืองของฝรั่งเศสที่มุ่งหน้าสู่การลงคะแนนเสียงครั้งสุดท้ายนี้
เราได้เห็นทีม Macron แล้ว รวมถึงตัว Macron เองและนายกรัฐมนตรี Gabriel Attal เรียกร้องให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวฝรั่งเศสเลือกฝ่ายตรงข้ามของพรรค National Rally ในรอบที่สอง แม้ว่าพวกเขาจะต้องลงคะแนนเสียงให้ฝ่ายซ้ายอย่างเห็นได้ชัดก็ตาม
“บทเรียนในคืนนี้ก็คือฝ่ายขวาสุดกำลังจะมีอำนาจ... ไม่เคยมีรัฐสภาใดในระบอบประชาธิปไตยของเราที่เสี่ยงต่อการถูกครอบงำโดยฝ่ายขวาจัดเหมือนในวันนี้” อัตตาลกล่าว “ ไม่ควรลงคะแนนเสียงแม้แต่คะแนนเดียวให้พรรค National Rally … หากเราต้องการดำเนินชีวิตตามชะตากรรมของฝรั่งเศส มันเป็นหน้าที่ทางศีลธรรมของเราที่จะทำทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้น”
เคยหรือไม่ที่พวกเขาและเพื่อนผู้ก่อตั้งของพวกเขาจะตระหนักและถูกมองว่าเป็นพวกหัวรุนแรงที่แท้จริง และนั่นเป็นเหตุผลว่า เพราะเหตุใดพวกเขาจึงถูกปฏิเสธตามระบอบประชาธิปไตยทุกครั้งที่ประชาชนมีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น
พวกเขากำลังพูดเหมือนคิดว่าผู้ลงคะแนนเสียงโง่ และไม่รู้ว่ามีภัยคุกคามที่แท้จริงเมื่อเห็นสิ่งนั้น แต่สิ่งที่ผู้ลงคะแนนยังคงสื่ออย่างชัดเจนในการลงคะแนนเสียงครั้งที่สองในรอบหลายเดือนตอนนี้ ก็คือพวกเขากำลังต่อสู้กับภัยคุกคามที่มีอยู่แล้ว ซึ่งเลวร้ายยิ่งกว่าจินตนาการใดๆ ที่คิดขึ้นโดยสถาบัน และทีม Macron
พลเมืองฝรั่งเศสแทบจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกต่อไป อันเป็นผลมาจากการจัดลำดับความสำคัญอย่างสุดโต่งและผิดที่ผิดทางในทุกสิ่ง ตั้งแต่การใช้จ่ายของยูเครนและ มาตรการ "ทางเศรษฐกิจ" ในประเทศ ภายใต้ภาพลวงตาที่ว่าพวกเขาจะทำให้ยูเครนได้รับชัยชนะในสนามรบ ไปจนถึงการครุ่นคิดเกี่ยวกับกองทหารฝรั่งเศสที่ต่อสู้กับรัสเซียในยูเครน ซึ่งในตอนแรกอยู่ในฐานะ “ผู้ฝึกสอน”
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ใช่ว่าความเคลื่อนไหวโดย Macron จะไม่สร้างประโยชน์ในระยะยาวและมีทางออกหลายทาง ดังจะเห็นได้จากการประท้วงเสื้อกั๊กเหลืองของฝรั่งเศสที่เริ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2018 โดยการตัดสินใจของมาครงที่จะขึ้นภาษีคาร์บอนสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงรถยนต์อีกครั้ง และกินเวลานานหลายเดือนจนกระทั่งถึงการล็อกดาวน์จากโควิด น่าจะเป็นเบาะแสแรกที่ชาวฝรั่งเศสไม่เต็มใจที่จะจ่ายให้เรื่องไร้สาระทางอุดมการณ์โดยสูญเสียความสามารถของตัวเองในการหาเงินเลี้ยงชีพ แต่ในขณะเดียวกัน มาครงและเพื่อนชนชั้นสูงของ Eurocrat ก็ยังคงยืนหยัดต่อสู้กับค่าใช้จ่ายและกฎระเบียบด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งรบกวนราคาและความพร้อมของความเป็นอยู่และปากท้องของชาวฝรั่งเศส
สำหรับการยืนกรานในเรื่องประชาธิปไตย ทีม Macron ยังฝ่าฝืนกฎหมายที่ไม่เป็นที่นิยมด้วยการอาศัยอำนาจพิเศษมาตรา 49.3 ของรัฐธรรมนูญ บังคับให้พวกเขาผ่านกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูประบบบำนาญ และตอนนี้เป็นปริศนาที่ยิ่งใหญ่ว่า ทำไมชาวฝรั่งเศสจึงไม่ถูกขัดขวางอีกต่อไป หากเป็นไปตามที่ Macron ระบุว่าฝ่ายค้านเป็นพวกสุดโต่ง
มาครงได้ทำอะไรเกี่ยวกับสถานการณ์การอพยพเข้าเมืองและความไม่มั่นคงที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผู้ลงคะแนนเสียงชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่พิจารณาว่ามีความเชื่อมโยง และเป็นหนึ่งในสามประเด็นอันดับต้นๆ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ควบคู่ไปกับกำลังซื้อและการรับรู้ของฝรั่งเศสต่อเวทีโลก
ขณะนี้ มาครงกำลังปฏิบัติต่อฝ่ายซ้ายเหมือนเป็นความหวังสุดท้ายที่จะช่วยผู้มีสิทธิเลือกตั้งจากตัวเอง และจากสิ่งที่พวกเขาบอกเขาว่าพวกเขาต้องการ แต่ไม่ว่าเขาจะสั่งให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวฝรั่งเศสเดินหน้าทันที แต่พวกเขาสุขเกินกว่าจะเชื่อฟังอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า
สองครั้งแล้วที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวฝรั่งเศสรับฟังข้อเรียกร้องในการเลือกตั้งของมาครง และบอกให้เขาผลักมันออกไป ทำให้ต้องจับตาดูในครั้งที่สามว่า คำของมาครงและพวก จะกลายเป็น 'มนต์เสน่ห์' ขึ้นมาในครั้งที่สาม (การเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่สองของฝรั่งเศส) ได้หรือไม่
IMCT News
ที่มา https://www.rt.com/news/600254-france-macron-party-national-election/
