ขอบคุณภาพจาก Alibaba.com
26/5/2024
อาลีบาบาเปิดเผยแผนการเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการระบบคลาวด์ โดยมีแผนการจะขยายไปทั่วโลก ซึ่งเซลินา หยวน ประธานแผนกต่างประเทศของ Alibaba Cloud ระบุว่า ผลิตภัณฑ์ด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (Artifiial Intelligence : AI) ของบริษัทว่า เป็นหนทางหนึ่งในการชับเคลื่อนและผลักดันสู่การเติบโต
นอกจากยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนจะขยายความพร้อมและการให้บริการระบบคอมพิวเตอร์คลาวด์ไปยังเม็กซิโกเป็นครั้งแรก ยังเตรียมสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่ในตลาดสำคัญๆ ซึ่งรวมถึงมาเลเซีย ไทย และเกาหลีใต้ ในอีกสามปีข้างหน้า
“เราต้องการโอกาสและการลงทุนเพิ่มเติมสำหรับศูนย์ข้อมูลระหว่างประเทศของเรา” หยวนกล่าว
การเดินหน้าขยายความเติบโตดังกล่าว เกิดขึ้นหลัง Alibaba Cloud ยกเลิกการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป และผ่านการปรับโครงสร้างใหม่ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาอันวุ่นวายของแผนก แม้จะเคยเติบโตและขยายไปสู่ระดับสากลเมื่อปี 2015 ท่ามกลางผลลัพธ์ที่หลากหลาย
จนถึงขณะนี้ แอมะซอน, ไมโครซอฟต์ และกูเกิล ถือส่วนแบ่งตลาดคลาวด์ประมาณร้อยละ 67 ของตลาดคลาวด์ทั่วโลก ตามรายงานของ Synergy Research Group ขณะที่อาลีบาบาถือส่วนแบ่งตลาดคลาวด์เพียงไม่ถึงร้อยละ 5 ของทั้งหมด แต่จากข้อมูลของ Canalys อาลีบาบาถือเป็นผู้เล่นชั้นนำในเอเชีย จากการถือส่วนแบ่งตลาดคลาวด์ถึงร้อยละ 39 ในจีน
แม้ระบบคลาวด์จะถูกมองว่าเป็นธุรกิจที่สำคัญในอนาคตสำหรับอาลีบาบา ตามมุมมองของแดเนียล จาง ซีอีโอคนก่อนและผู้บริหารอาวุโสคนปัจจุบัน แต่การเติบโตกลับชะลอตัวลงอย่างมากในไตรมาสล่าสุด ส่วนเดือนนี้ (พ.ค.2024) ผู้บริหารของอาลีบาบาได้ยืนยันระหว่างการรายงานผลประกอบการ ว่า Alibaba Cloud จะกลับมา ”เติบโตระดับเลขสองหลัก” อีกครั้ง ในครึ่งหลังของปีงบประมาณปัจจุบัน
เพื่อจุดประกายความเคลื่อนไหวดังกล่าวให้กลับมาสว่างไสวอีกครั้ง อาลีบาบากำลังเดิมพันกับผลิตภัณฑ์เอไอเพื่อให้มีลูกค้ามาลงทะเบียนใช้งานมากขึ้น ทำให้อาลีบาบาเร่งเดินหน้าขยายความร่วมมือกับโมเอต์ เฮนเนสซี หลุยส์ วิตตอง (LVMH) แบรนด์หรูของฝรั่งเศส เพื่อให้เริ่มใช้เอไอของอาลีบาบาแล้ว
นอกจากนี้ อาลีบาบาก็ยังเปิดตัวโมเดลทางภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model : LLM) เพื่อสนับสนุนการใช้งานเอไออย่าง Tongyi Qianwen เมื่อปีที่แล้ว (2023) ส่วนในเดือนนี้ (พ.ค.2024) อาลีบาบาได้เปิดตัวโมเดลภาษาที่พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งมีแนวโน้มจะแซงหน้าคู่แข่งชาวจีนรายอื่นๆ เช่น Baidu และ Tencent ได้ ไม่ต่างจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง Microsoft, OpenAI และ Google
“เราคิดว่าเอไอคืออนาคต และจะเป็นเทรนด์อย่างแน่นอน ส่วนเคล็ดลับที่ทำให้เราสนับสนุนเอไอและโมเดลภาษาขนาดใหญ่ได้ ก็คือการประมวลผลแบบคลาวด์” หยวนระบุ
“เป็นเวลาที่ดีสำหรับระบบคลาวด์ของอาลีบาบา เพราะเรามีการประมวลผลแบบคลาวด์และมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนมาก นอกจากนี้ เรายังมีโมเดลภาษาขนาดใหญ่ของเราเอง ซึ่งจะทำให้สามารถทำอะไรได้มากขึ้น ทั้งสำหรับธุรกิจ ลูกค้า และหุ้นส่วนของเรา”
IMCT News
ที่มา https://www.cnbc.com/2024/05/23/alibaba-bets-on-ai-to-fuel-cloud-growth-as-it-expands-globally.html