ขอบคุณภาพจาก RT

25/10/2024

ทองคำอยู่ในหมวดสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีเยี่ยมเบอร์ต้นในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์   ราคาพุ่งฉิวทำสถิติใหม่แทบทุกเดือนในปีนี้ ( 2024 )   และจนถึงตอนนี้ ทองคำก็มีราคาพุ่งขึ้นแล้วเฉียด 32% นับจากต้นปีที่ผ่านมา และยังคงดึงดูดใจนักลงทุนต่อเนื่อง

ในขณะที่ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่หลายคนต้องการกันอย่างมากในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์  แต่ตอนนี้ ราคาทองคำเข้าสู่เขตแดน “ ซื้อมากเกินไป “ แล้ว    ใครที่เข้าซื้อทองคำในช่วงนี้ จึงต้องแบกรับความเสี่ยง  เพราะมีความเป็นไปได้ว่า ราคาอาจปรับลงครั้งใหญ่   ข้อมูลเมื่อไม่นานมานี้ ตีพิมพ์โดย Barchart  ระบุว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่เข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป หรือ overbought มากที่สุด ในรอบห้าปีที่ผ่านมา

และเมื่อสินทรัพย์เข้าสู่เขตแดน “ ซื้อมากเกินไป “ แล้ว โอกาสที่ราคาจะปรับตัวลดลง จะมีสูงมาก  บรรดานักลงทุนสถาบันเป็นตัวหลักที่อาจเทขาย เพื่อทำกำไรในเบื้องต้น ซึ่งอาจทำให้ส่วนอื่นเทขายตามมาเป็นลูกโซ่   สิ่งนี้จึงทำให้ทองถูกกดดัน เพราะราคาในขณะนี้ ถือว่า สูงมากในชาร์ต

ครั้งหลังสุดที่ทองคำ เข้าสู่เขตแดนของการ “ ซื้อมากเกินไป “ เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว คือ ในปี 2019   แล้วความต้องการทองคำก็ร่วงลงกว่า 1% ในช่วงนั้น เพราะนักลงทุนเทขายแล้วหันไปหากองทุนรวมดัชนี หรือ ETFs และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ    ส่วนสถานการณ์ในตอนนี้  บรรดานักลงทุนต่างมองว่า ราคาทองคำที่พุ่งอยู่ในขณะนี้ อาจพลิกกลับเพื่อทำกำไรระยะสั้นออกมาเบื้องต้น  เพราะราคาทองคำเข้าสู่เขต “ ซื้อมากเกินไป “ แล้ว

แต่ปี 2019 และปี 2024 ก็มีความแตกต่างกันอย่างมากในวงจรตลาด    เพราะเมื่อปี 2019 ราคาทองคำโดยเฉลี่ยกลับคืนสู่ราคาพื้นฐาน  แต่ในปี 2024 ทองคำเป็นที่ดึงดูดใจอย่างมากของนักลงทุนทุกระดับ  ธนาคารกลางในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาต่างเร่งตุนทองมาตั้งแต่ปี 2022 และกระจายการถือครองสินทรัพย์สำรอง มาสู่ทองคำด้วย

ดังนั้น จึงมีแนวโน้มน้อยมาก ที่บรรดาธนาคารกลางจะเทขายทองคำเพื่อทำกำไรในเบื้องต้น   ดังนั้น  การถือครองทองคำต่อไป จึงน่าจะดีกว่าเทขายออกมาในปัจจุบัน   เพราะปัจจัยที่ดันให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นในตอนนี้ หลักๆ ก็มาจากธนาคารกลางหลายแห่ง พากันแห่ตุนนั่นเอง

By IMCT News

อ้างอิงจาก https://watcher.guru/news/gold-enters-overbought-territory-should-you-sell-rebuy-the-asset