ขอบคุณภาพจาก Xinhua

9/9/2024

ร้านอาหารกว่า 1 ล้านแห่งปิดกิจการในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากคนจีนต่างพากันสั่งซื้ออาหารแล้วให้มาส่งที่บ้านมากกว่า  ส่งผลให้ผู้ประกอบอาชีพขี่จักรยานยนต์วิ่งส่งอาหารในจีน มีปริมาณพุ่งพรวดราวติดจรวด

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจซบเซา   ห้างสรรรพสินค้า ร้านก๋วยเตี๋ยว และภัตตาคารจึงพากันปิดกิจการไปทั่วประเทศ จากการรายงานของ Canguanju ผู้ให้บริการข่าวสารด้านอุตสาหกรรมจัดเลี้ยง

มีร้านกินดื่มกว่า 1 ล้านแห่ง โดยมีร้านก๋วยเตี๋ยวรวมอยู่ในนี้ด้วย 30,000 แห่ง ปิดกิจการไปแล้วในช่วงครึ่งแรกของปี 2024  เพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่แล้ว ซึ่งมียอดการปิดร้านอาหารกว่า 1 ล้านแห่งเช่นกัน แต่เป็นยอดตลอดทั้งปี

รายงานนี้มีขึ้นในช่วงที่ร้านอาหารชื่อดังจากไต้หวัน Din Tai Fong ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 30 สาขาในจีน  ทั้งในเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง หังโจว เสิ่นเจิ้น และกวางโจว  ก็ประกาศจะปิด 14 สาขา ในภาคเหนือของจีน โดยอ้างว่า เศรษฐกิจขาลง

นักวิเคราะห์เศรษฐกิจ มองว่า  Din Tai Fong เป็นเหมือนตัวแทนของความหรูหราและการกินดื่มแบบชนชั้นสูงในสังคมจีน  เป็นเหมือนเครื่องวัดถึงความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ  และครั้งหนึ่ง Din Tai Fong ก็เคยประสบความสำเร็จอย่างงดงามในประเทศจีน  แต่เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่เป็นใจ  จึงทำให้ร้านชื่อดังนี้ต้องปิดสาขา  สะท้อนให้เห็นว่า จำนวนชนชั้นกลางในจีนกำลังหดตัวเร็วกว่าเดิม  และนี่คือข้อมูลตามความเป็นจริงที่เห็นกันอย่างชัดเจน แม้ว่า รัฐบาลจีนจะยืนยันถึงข่าวคราวเศรษฐกิจในเชิงบวกออกมาก็ตาม

ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย National Taiwan Normal บอกว่า  เสี่ยวหลงเปา คืออาหารประเภทหนึ่งที่ไต้หวันนำมาจากจีนแผ่นดินใหญ่หลังปี 1949  จนทำให้อาหารประเภทนี้เฟื่องฟูมากในไต้หวัน  แล้วไต้หวันก็ส่งเสี่ยวหลงเปากลับไปขายที่จีนในเวลาต่อมา 

เสี่ยวหลงเปาเป็นอาหารขึ้นชื่อของร้าน Din Tai Fong ในไต้หวัน และสิ่งนี้ก็มีนัยยะทางการเมืองซ่อนอยู่  จีนแผ่นดินใหญ่เคยอ้าแขนรับเมนูเสี่ยวหลงเปากลับคืนสู่ประเทศ แต่การปิดสาขาของร้าน Din Tai Fong นี้ สะท้อนให้เห็นว่า เมนูเสี่ยวหลงเปากำลังจะหายไปจากจีนอีกแล้ว  คิดว่า ชาวจีนก็ต้องรู้สึกกันบ้างกับเรื่องนี้

นักวิเคราะห์อีกคนที่อยู่ในสหรัฐมองว่า  ร้านอาหารในจีนได้รับผลกระทบหนักจากการที่รัฐบาลท้องถิ่นในจีนขาดแคลนงบประมาณ นับจากมาตรการคุมเข้มให้โควิดเป็นศูนย์ถูกใช้มานานสามปี และลงท้ายด้วยการประท้วงไปทั่วประเทศจีนเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2022   เนื่องจากลูกค้าที่เข้าไปกินร้านก๋วยเตี๋ยวราคาแพงและร้านอาหารสุดหรูอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ

 ข้าราชการระดับสูงในส่วนท้องถิ่น อาจต้องไปรับรองแขก หรือทำข้อตกลงทางธุรกิจ แม้กระทั่งติดสินบนและคอร์รัปชั่น ในร้านอาหารสุดหรูเหล่านี้   แต่ปัจจุบัน จีนมีมาตรการเล่นงานคนเหล่านี้หนักขึ้น ภายใต้นโยบายต่อต้านคอร์รัปชั่น   พวกเขาจึงไม่กล้าไปใช้บริการร้านอาหารหรูหรามากนัก  ร้านจึงอยู่ต่อไม่ไหวและปิดกิจการในที่สุด

อีกสาเหตุหนึ่งก็คือ ข้าราชการจำนวนมากในจีน ยังถูกลดเงินเดือนและโบนัส หรือไม่ได้รับค่าจ้างเลยด้วยซ้ำในช่วงเศรษฐกิจขาลง  พวกเขาจึงไม่กล้าจับจ่ายมาก  ทำให้ร้านอาหารหรูหรากระทบอย่างจัง

แต่ในเวลาเดียวกัน ก็มีคนจีนจำนวนมากที่เลือกใช้บริการให้อาหารมาส่งถึงที่บ้านแทน  ทำให้จำนวนผู้ประกอบอาชีพขับรถส่งอาหารมีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลานี้  จากการเปิดเผยของสำนักงานสถิติของรัฐบาลประจำกรุงปักกิ่ง

แม้รายได้โดยรวมของธุรกิจจัดเลี้ยงจะลดลง 2.9% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 เมื่อเทียบกันปีต่อปี  และผลกำไรก็หล่นฮวบ 88.8% ในช่วงเดียวกัน   แต่ตัวเลขพนักงานรับส่งอาหารตามบ้านกลับพุ่งขึ้น 49.7%  สะท้อนว่า คนจีนอยากกินข้าวอยู่ที่บ้านมากกว่า ทั้งที่รัฐก็ได้ยกเลิกการคุมเข้มโควิดแล้ว

ชาวจีนในกรุงปักกิ่งรายหนึ่งบอกว่า  พนักงานรับส่งอาหารตามบ้านที่เพิ่งเข้ามาทำงานด้านนี้ หลายคนเคยเป็นพนักงานบริษัทใหญ่โตมาก่อน ที่ไม่สามารถหางานแบบนั้นได้อีกแล้ว จึงออกมายึดอาชีพส่งอาหารตามบ้านเพื่อหาเลี้ยงปากท้อง

ตอนนี้ ผู้ที่ยึดอาชีพนี้  ส่วนหนึ่งเป็นพวกเด็กจบใหม่ หรือ คนในตัวเมือง  ทั้งที่งานแบบนี้ เคยเป็นงานที่แม้แต่คนชนบทก็ไม่อยากจะทำด้วยซ้ำ  แต่ปัจจุบัน คนชนบทก็คงเลือกงานไม่ได้แล้ว เพราะงานของพวกเขา ก็ถูกคนในเมืองมาแย่งทำเช่นกัน

By IMCT News

อ้างอิงจาก https://www.rfa.org/english/news/china/chinese-restaurants-close-down-08292024161837.html