'สี จิ้นผิง' เรียกร้อง G20 ส่งเสริมธรรมาภิบาลโลก
36 0C
Thailand
Thailand
'สี จิ้นผิง' เรียกร้อง G20 ส่งเสริมธรรมาภิบาลโลก
ขอบคุณภาพจาก China Daily
21-11-2024
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เรียกร้องให้กลุ่ม G20 ดำเนินการต่อไปในฐานะพลังในการปรับปรุงธรรมาภิบาลโลกและขับเคลื่อนประวัติศาสตร์ไปข้างหน้า เนื่องจากฟอรัมหลักสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศแห่งนี้กำลังเผชิญกับเศรษฐกิจโลกที่แตกแยกมากกว่าในปี 2008 โดยประธานาธิบดีสีเรียกร้องเรื่องนี้ระหว่างเข้าร่วมการประชุมสุดยอด G20 ซึ่งเป็นเวทีสำหรับการหารือเกี่ยวกับการปฏิรูปธรรมาภิบาลโลก
“การประชุมสุดยอด G20 จัดขึ้นมาเป็นเวลา 16 ปีแล้ว ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราได้ร่วมมือกันเพื่อแก้ไขวิกฤตการเงินโลก ส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการค้าโลก และผลักดันเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัว” สีกล่าว
G20 ประกอบด้วย 19 ประเทศและองค์กรระดับภูมิภาค 2 แห่งของสหภาพแอฟริกาและสหภาพยุโรป คิดเป็นประมาณ 85% ของ GDP โลก มากกว่า 75% ของการค้าโลก และประมาณสองในสามของประชากรโลก
เพื่อปรับปรุงการกำกับดูแลการค้าโลกและสร้างเศรษฐกิจโลกที่มีลักษณะเปิดกว้าง ประธานาธิบดีจีนกล่าวว่าการพัฒนาควรได้รับการจัดให้เป็นศูนย์กลางของวาระเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ และการเปิดเสรีและการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนควรได้รับการผลักดันอย่างต่อเนื่อง
สีย้ำถึงความจำเป็นในการผลักดันการปฏิรูปองค์การการค้าโลก (WTO) ต่อต้านนโยบายฝ่ายเดียวและการคุ้มครองทางการค้า ฟื้นฟูการทำงานปกติของกลไกการระงับข้อพิพาทโดยเร็วที่สุด และบรรลุฉันทามติเกี่ยวกับข้อตกลงอีคอมเมิร์ซโดยเร็วที่สุด
สีกล่าวกับผู้นำที่เข้าร่วมว่า "การหลีกเลี่ยงการทำให้ปัญหาทางเศรษฐกิจกลายเป็นเรื่องการเมือง หลีกเลี่ยงการแบ่งแยกตลาดโลก และหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวเพื่อการคุ้มครองทางการค้าในนามของการพัฒนาสีเขียวและคาร์บอนต่ำนั้นเป็นสิ่งสำคัญ"
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีจีนก็ได้ยื่นอุทธรณ์ในช่วงเวลาที่หลักการการค้าเสรีและเป็นธรรมของ WTO ถูกท้าทาย จากการที่บางประเทศทำให้การค้าและการลงทุนกลายเป็นเรื่องการเมืองด้วยเหตุผลทางภูมิรัฐศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าตลาดโลกยังแตกแยกจากการกระทำต่างๆ เช่น การกำหนดภาษีศุลกากรที่สูง
“ตัวอย่างเช่น ในขณะที่สหรัฐฯ หันไปหาเม็กซิโกและประเทศอื่นๆ เพื่อค้าขายกับจีนโดยอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ สหภาพยุโรปกลับให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศมากกว่าในนามของการกระจายความเสี่ยง” ซือซือเหว่ย นักวิจัยอาวุโสแห่งศูนย์วิจัยความร่วมมือทางเศรษฐกิจจีน-สหภาพยุโรป มหาวิทยาลัยธุรกิจระหว่างประเทศและเศรษฐศาสตร์ กล่าว ซึ่งผลที่ตามมาคือ การค้าระหว่างประเทศกลายเป็นเรื่องยากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจโลกหันเหออกจากโลกาภิวัตน์
สีกล่าวในคำปราศรัยของเขาว่า “เราควรจำไว้ว่ามนุษยชาติอาศัยอยู่ในชุมชนที่มีอนาคตร่วมกัน มองการพัฒนาของกันและกันเป็นโอกาสมากกว่าความท้าทาย และมองกันและกันเป็นหุ้นส่วนมากกว่าคู่แข่ง” พร้อมเรียกร้องให้สมาชิก G20 สร้างฉันทามติระหว่างประเทศที่มากขึ้นในด้านเศรษฐกิจ การเงิน การค้า ดิจิทัล และสิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศ เป็นต้น เพื่อปรับปรุงการกำกับดูแลระดับโลกและส่งเสริมโลกที่มีขั้วอำนาจหลายขั้วที่เท่าเทียมและเป็นระเบียบเรียบร้อย และโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์และครอบคลุมทั่วโลก
สีย้ำว่า “จีนพร้อมที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศกับทุกฝ่ายในโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว พลังงานสีเขียว การทำเหมืองสีเขียว และการขนส่งสีเขียว และจะให้การสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาอย่างเต็มความสามารถ”
ด้านประธานาธิบดีลุยซ์ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล ยังได้ปกป้องการปฏิรูปการปกครองระดับโลกในการประชุมสมัยที่สองด้วย “คำตอบสำหรับวิกฤตพหุภาคีคือพหุภาคีมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดสงครามโลกครั้งใหม่หรือเศรษฐกิจล่มสลายเสียก่อนจึงจะส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงที่ระเบียบโลกต้องการได้”
ขณะเดียวัน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า การกำกับดูแลความมั่นคงระดับโลกเป็นส่วนหนึ่งของการกำกับดูแลระดับโลก และกล่าวว่ากลุ่ม G20 ควรสนับสนุนสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงในการมีบทบาทมากขึ้นและสนับสนุนความพยายามทั้งหมดที่เอื้อต่อการยุติวิกฤตอย่างสันติ
“เพื่อลดระดับวิกฤตในยูเครนและแสวงหาการยุติความขัดแย้งทางการเมือง เราควรยึดหลักการไม่ขยายสนามรบ ไม่เพิ่มระดับการสู้รบ และไม่โหมกระพือไฟ”
นอกจากนี้ก็ยังเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนของทุกฝ่ายในการยุติการสู้รบในฉนวนกาซา เพื่อยุติสงครามดังกล่าว และให้การสนับสนุนเพื่อบรรเทาวิกฤตด้านมนุษยธรรมในภูมิภาคตะวันออกกลาง และเพื่อการฟื้นฟูหลังสงคราม
IMCT News
ที่มา https://asianews.network/chinese-president-xi-urges-g20-to-advance-global-governance/
