14/7/2024

ความพยายามลอบสังหารโดนัลด์ ทรัมป์  ทำให้ตำนานต้องคำสาปเหตุรุนแรงทางการเมืองของสหรัฐกลับมาเปิดฉากอีกครั้ง   คนร้ายเล็งเป้ามายังทรัมป์ ระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง เพียงไม่กี่วันก่อนที่เขาจะตกปากรับคำเป็นตัวแทนของรีพับลิกันลงสู้ศึกเลือกตั้ง เท่ากับว่า  ความพยายามลอบสังหารทรัมป์ครั้งนี้ ก็คือการสังหารประชาธิปไตยและสิทธิ์ของคนอเมริกันแต่ละคนที่จะเลือกผู้นำประเทศ

แม้ขณะเกิดเหตุ ทรัมป์จะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ   แต่มันก็ตอกย้ำถึงเหตุรุนแรงทางการเมืองได้ดี    โจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐ  และมีประธานาธิบดีก่อนหน้าเขาถึง 4 คน ที่ถูกลอบสังหารขณะอยู่ในตำแหน่ง  ครั้งหลังสุดก็คือ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ เมื่อปี 1963

การเล็งเป้าสังหารทรัมป์ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี  มีคนนำไปเปรียบกับคดีลอบสังหาร โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี้ ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต เมื่อปี 1968  ปีนั้นยังถือเป็นปีนองเลือด เพราะยังเกิดคดีสังหารมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ผู้นำสิทธิพลเรือน และยังเกิดเหตุรุนแรงในการประชุมพรรคเดโมแครตที่ชิคาโก

เหตุที่เกิดขึ้น  ดันให้การเมืองสหรัฐยิ่งผันผวน และกลายเป็นความป่าเถื่อน  เป็นปีแห่งการเลือกตั้งที่คาดเดาไม่ได้  ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้  ก็เพิ่งได้เห็น โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐที่อายุเยอะสุดในประวัติศาสตร์  สู้ไม่ถอยที่จะทำให้ตัวเองยังเป็นผู้แทนพรรคเดโมแครตลงสู้ศึกเลือกตั้ง ทั้งที่ออกอาการชัดว่า เริ่มไปไม่ไหวในการดีเบทที่ผ่านมา   ส่วนทรัมป์ ในวัย 78 ปี ก็ถูกลูกขุนรายหนึ่งในนิวยอร์กเล่นงาน และยืนยันจะจองเวรแน่นอน หากทรัมป์ได้รับเลือกกลับมาอีก

แต่สิ่งที่ทำให้สถานการณ์ดูผ่อนคลายลงบ้าง ก็คือ ทรัมป์รอดชีวิตมาได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้  แต่ก็น่าจะส่งผลให้การประชุมพรรครีพับลิกันที่ Milwaukee ในสัปดาห์นี้  เต็มไปด้วยบรรยากาศที่ตึงเครียดมากขึ้น

มีความวิตกว่า ความพยายามลอบสังหารทรัมป์ อาจจุดชนวนให้เหตุรุนแรงทางการเมืองในสหรัฐ กลับมาพุ่งทะยานอีก  ผู้เชี่ยวชาญทางการเมืองและเป็นประธานกลุ่ม Eurasia Group มองว่า สหรัฐเป็นประเทศที่ผู้คนจำนวนมากก็ไม่ได้เชื่ออยู่แล้วว่า ประชาธิปไตยของพวกเขายังอยู่ในภาวะสมบูรณ์ หรือใช้การได้  เรื่องที่เกิดขึ้น น่าเป็นห่วงว่า จะก่อให้เกิดเหตุรุนแรงทางการเมืองตามมาอีกมาก และความไม่มั่นคงทางสังคม

เคยมีผลสำรวจเมื่อเดือนมิถุนายน พบว่า  มีผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 10% ที่เห็นว่า การใช้กำลังเป็นสิ่งที่ยุติธรรมในการป้องกันทรัมป์กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกสมัย  ในขณะที่ 7% หนุนให้ใช้กำลังเพื่อให้ทรัมป์ได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีก

นักวิเคราะห์มองว่า การข่มขู่จะใช้ความรุนแรงกับนักการเมืองทุกระดับชั้นมีมากขึ้นในสหรัฐ  จนกลายเป็นสิ่งปกติไปแล้วกับการเมืองสหรัฐ  และทั้งสองพรรคก็เริ่มจะเคยชินกับเหตุรุนแรง  คนที่ก่อเหตุมักได้รับข้อมูลผิดๆ หรือถูกชี้นำแบบผิดๆ  หรืออาจจะไม่เห็นด้วยกับนโยบายทางการเมืองบางอย่าง

By IMCT News

อ้างอิงจาก https://edition.cnn.com/2024/07/14/politics/trump-shooting-politics-analysis/index.html