Thailand
ขอบคุณภาพจากซินหัว
11/8/2024
ดอลลาร์สหรัฐกำลังอยู่ในสภาพสุ่มเสี่ยง หลังจากเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ( 5 สิงหาคม 2024 ) ตลาดหุ้นสหรัฐแดงฉานจากความวิตกว่าเศรษฐกิจจะถดถอยและเค้าลางสงครามโลกครั้งที่สาม ส่งผลให้บิทคอยน์พลอยร่วง และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าตามไปด้วย
หลายประเทศในอาเซียนพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐในการทำการค้า เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง จึงส่งผลกระทบต่อประเทศเหล่านี้อย่างมาก แม้ปัจจุบัน อาเซียนพยายามหาทางหลีกเลี่ยงการใช้ดอลลาร์ เนื่องจากที่ผ่านมาตะวันตกมักใช้ดอลลาร์เป็นอาวุธในการคว่ำบาตร อีกทั้งหนี้สินสหรัฐที่พอกพูน ก่อให้เกิดความวิตกในเสถียรภาพของเงินดอลลาร์ แต่การจะหาทางเลือกอื่นมาใช้แทนดอลลาร์สหรัฐ ก็ไม่ได้ง่ายนัก อาเซียนจึงยังคงใช้ดอลลาร์สหรัฐในการทำธุรกรรมในแต่ละวัน
มีอยู่ 5 ประเทศในอาเซียน ที่ได้รับความเสี่ยงหากดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง
- อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่ใหญ่สุดในอาเซียน และต้องพึ่งพาดอลลาร์ในหลายสิ่ง เงินดอลลาร์อ่อนค่าอาจส่งผลให้เงินทุนไหลออกจากประเทศนี้ และเศรษฐกิจอินโดนีเซียอาจซบเซาได้
- มาเลเซีย เป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาการส่งออกอย่างมาก เงินดอลลาร์อ่อนค่าอาจกระทบกับศักยภาพการแข่งขันของมาเลเซีย เพราะสินค้าส่งออกของมาเลเซียอาจไม่ได้มีราคาถูกเหมือนเดิม เมื่อแปลงออกมาเป็นเงินดอลลาร์ อีกทั้งมาเลเซียยังรับการลงทุนโดยตรงจากสหรัฐ เงินดอลลาร์อ่อนค่า อาจกระทบกับการลงทุนต่างชาติด้วย และทำให้เศรษฐกิจมาเลเซียอ่อนแอลง
- ฟิลิปปินส์ เป็นอีกชาติหนึ่งที่เสี่ยงว่า ตลาดจะผันผวนหากเงินดอลลาร์อ่อนค่า เพราะแรงงานฟิลิปปินส์ที่ไปทำงานในสหรัฐ มักส่งเงินกลับฟิลิปปินส์เป็นจำนวนมหาศาลต่อปี เงินดอลลาร์อ่อนค่า ก็ทำให้เงินที่แรงงานเหล่านี้ส่งกลับมา มีมูลค่าน้อยลง
- ไทย พึ่งพาเศรษฐกิจที่เน้นการท่องเที่ยวเป็นหลัก เงินดอลลาร์อ่อนค่า อาจทำให้นักท่องเที่ยวสหรัฐหันไปเที่ยวประเทศอื่นแทน หรือ จับจ่ายเงินในไทยน้อยลง กระทบกับเศรษฐกิจไทยอีกต่อหนึ่ง
- สิงคโปร์ ถือเป็นศูนย์กลางการเงินแห่งหนึ่งของโลก จะได้รับผลกระทบหนักสุดจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า เศรษฐกิจสิงคโปร์พึ่งพาสหรัฐอย่างหนักในด้านการค้า เงินดอลลาร์อ่อนค่าจึงกระทบกับการค้าของสิงคโปร์แน่นอน กระทบตลาดการเงินสิงคโปร์และการท่องเที่ยวอีกด้วย
By IMCT News
อ้างอิงจาก https://watcher.guru/news/asean-5-nations-at-risk-as-us-dollar-weakens
© Copyright 2020, All Rights Reserved