วาทกรรมที่ขาดความรัดผิดชอบของมาครง

วาทกรรมที่ขาดความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิงของประธานาธิบดีมาครง ในการส่งกองกำลังภาคพื้นดินของ NATO ไปยังยูเครนได้ถูกสกัดกั้นอย่างมีชั้นเชิงโดยอดีตนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสอย่างนายดอมีนิก เดอ วีลแป็ง

10/03/2024

การสัมภาษณ์ดังกล่าวได้ถูกแปลแบบฉบับเต็ม โดยนายอาร์โนด์ เบอร์ทรานด์ เพราะมันเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้คนตระหนักถึงอันตรายร้ายแรงเบื้องหลังความพยายามของประธานาธิบดีมาครง (และผู้นำ NATO คนอื่นๆ) ที่พยายามจะขยายความขัดแย้ง โดยได้มีการกล่าวไว้ว่า

“เพื่อให้การโต้วาทีครั้งนี้ในเรื่องการส่งกองกำลังภาคพื้นดินมีประโยชน์ อันดับแรกเราจำเป็นต้องตอบคำถาม 5 ข้อได้ในความเสี่ยง 5 ประการที่เกี่ยวข้องกับการลุกลามครั้งนี้ เราจะดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวหากเราจะส่งทหารภาคพื้นดินเพื่อความเสี่ยงครั้งนี้

ประการแรกคือการขยายตัวของความขัดแย้ง ถ้าเราส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว เราจะทราบได้อย่างไรว่าอีกด้านหนึ่งของทางรัสเซียจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินออกมาเช่นกัน เราจะเผชิญหน้ากับนักสู้ชาวแอฟริกัน เราจะเผชิญหน้ากับนักสู้ชาวเอเชีย เราจะเผชิญหน้ากับนักสู้จากตะวันออกกลางในพื้นทางตอนใต้ของโลกนี้ที่ต้องการต่อสู้กับทางตะวันตกหรือไม่

ถ้าฝ่ายชาติตะวันตก ชาติยุโรป และฝรั่งเศสส่งกองกำลังไปที่นั่น คุณไม่คิดว่าความสามัคคีจะมีบทบาทในฝั่งรัสเซียด้วยหรือ? ผมคิดว่าเรายังต้องถามตัวเองด้วยคำถามนั้น ไม่ว่าในกรณีใด การทูตของเราไม่ได้ทำสิ่งที่ควรจะแปลกแยกพวกรัสเซีย หากรัสเซียถูกปล่อยให้โดดเดี่ยว เราก็จะรู้เอง... อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าทางเราโดดเดี่ยวมากกว่าฝ่ายรัสเซียเสียอีก

คำถามสำคัญที่สองคือส่วนของแนวรบใหม่ หรือความเสี่ยงต่อแนวรบใหม่ ผมเตือนว่าผมเป็นหนึ่งในไม่กี่เสียงที่พูดว่า 'ระวังนะ! ยูเครนอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากแนวรบอื่นเปิดขึ้น' แนวรบในฉนวนกาซาและตะวันออกกลางได้เปิดแล้ว แต่มีแนวรบอื่นที่สามารถเปิดได้ทั้ง ในเกาหลี ในแอฟริกา... แล้วเราจะทำสงครามเช่นนี้กับทั้ง 5 ทวีปหรือไม่? ต้องคำนึงถึงความเป็นจริงนี้ที่ว่า โลกไม่ได้จำกัดอยู่เพียงละครดราม่าและโศกนาฏกรรมของยูเครนนั้น ปรากฎว่าอเมริกาเป็นมหาอำนาจระดับโลกและเราอ้างว่าเป็นมหาอำนาจระดับโลกด้วย ดังนั้นเราจึงกังวลกับความสมดุลที่สำคัญและระเบียบของโลก และน่าเสียดายที่การทูตของเราไม่ได้คำนึงถึงความผิดปกติเหล่านี้ซึ่งเกี่ยวข้องกับทาง คองโก ซูดาน ฯลฯ

ความเสี่ยงประการที่สามซึ่งสำคัญนั่นคือ ความเสี่ยงจากการก่อการร้าย ผมไม่ได้คิดถึงการก่อการร้ายที่จะมาจากฝ่ายตรงข้ามเราในประเทศยูเครน แต่ผมกำลังคิดถึงการก่อการร้ายแบบฉวยโอกาส เมื่อมีสถานการณ์ของความผิดปกติดังกล่าวนี้ การก่อการร้ายก็จะเกิดขึ้น และผมขอเตือนคุณว่า เราได้วางแผนไว้ที่นี่ในประเทศฝรั่งเศส ไม่ใช่ปีแห่งสงคราม แต่เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลอง ในอีกไม่กี่เดือน เราจะเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปีของการยกพลขึ้นบกในวันดีเดย์ และคณะผู้แทนจะมาจากทั่วทุกมุมโลก เราจะใช้เวลาหลายเดือนเพื่อเฉลิมฉลองโอลิมปิก หากเราต้องระดมพลก็ระดมพลกันเลย แต่บางทีควรจะทำมากกว่านี้อีกหน่อย ผมไม่เห็นเศรษฐกิจในช่วงสงคราม ผมไม่เห็นอะไรเลยทั้งการเตรียมจิตใจในแง่ของการป้องกันพลเรือนและสงครามลูกผสม... มันไม่ใช่แค่ดึงแนวคิดการทำสงครามในยูเครนออกมาจากหมวกโดยไม่ได้เตรียมการอะไรมาเลย...

ความเสี่ยงประการที่สี่คือ เรากำลังอยู่ในช่วงก่อนการเลือกตั้งของอเมริกาซึ่งจะเป็นตัวกำหนดระเบียบโลกใหม่ เป็นการเดิมพันที่ปลอดภัยโดยที่เรากำลังมุ่งหน้าไปสู่ยุคใหม่ของลัทธิโดดเดี่ยวและลัทธิกีดกันทางการค้าอย่างที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน เรากำลังเห็นความแตกแยกในระเบียบโลกใหม่นี้ระหว่างทรัมป์และจีนที่เพิ่งเฉลิมฉลองการรวมตัวของรัฐสภา และกลายเป็นการเก็บตัวมากขึ้น และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากขึ้นกว่าที่เคย นี่เป็นบริบททั่วไปทั่วไปที่ต้องนำมาพิจารณา

และยังมีองค์ประกอบสุดท้ายที่อาจเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด ซึ่งก็คือความเสี่ยงจากนิวเคลียร์ ผมรู้จักผู้เชี่ยวชาญที่ดี ผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ที่พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และผมเคารพพวกเขาอย่างมาก แต่การส่งกองกำลังภาคพื้นดิน เครื่องบินรบ ทำให้เราตกอยู่ในสถานการณ์ในแง่ของการป้องปรามที่เราไม่เคยรู้มาก่อน สี่สิบปีของสงครามเย็น: กองกำลังของสนธิสัญญาวอร์ซอและกองกำลังนาโต้ไม่เคยปะทะกัน และมันไม่ใช่ความบังเอิญ มันเป็นเพราะความเป็นจริงที่เกี่ยวข้องกับไวยากรณ์ของนิวเคลียร์

กฎแห่งการป้องปรามตั้งอยู่บนหลักการของการทำลายล้างร่วมกัน นั่นคือ ถ้าคนหนึ่งใช้ระเบิดนิวเคลียร์ และอีกคนตอบสนอง เราก็ตายกันหมด [... ] ผมคิดว่าไวยากรณ์นิวเคลียร์นั้นหมายความว่าทุกวันนี้ความเสี่ยงของกองทหารภาคพื้นดินของฝ่าย NATO ในประเทศยูเครนทำให้เกิดความเสี่ยงและความเสี่ยงนี้สำหรับอำนาจที่รับผิดชอบนั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ผมเดินทางรอบโลกมากพอที่จะสังเกตบางสิ่งเป็นเวลาถึง 15 ปีว่า การใช้อาวุธนิวเคลียร์มีพื้นฐานมาจากวัฒนธรรมทางการเมือง วัฒนธรรมทางสังคม และอารยธรรม โลกกำลังเปลี่ยนแปลง และสิ่งที่ดูเหมือนไม่อาจคิดได้เมื่อ 10 หรือ 15 ปีที่แล้ว ในปัจจุบันกลับแตกต่างออกไป วาทกรรมของศัตรู ความเกลียดชังของอีกฝ่ายได้พัฒนาไปจนถึงจุดที่เราอาศัยอยู่ในประชาคมระหว่างประเทศที่อาจต้องการจะตกลงคะแนนกับอีกฝ่าย . [... ] วันนี้ ผมไม่เพียงแค่คิดถึงชาวรัสเซียเท่านั้น และอย่าลืมถึงการแพร่กระจายของอาวุธนิวเคลียร์กับประเทศต่าง ๆ เช่น ปากีสถาน และประเทศอื่น ๆ อีกมากมายที่ขณะนี้มีอาวุธนิวเคลียร์กันทั้งสิ้น

หลักการของความรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญ และมีกฎที่ต้องดึงออกมาจากทั้งหมดนี้: ตรรกะของกำลัง เมื่อไม่ได้รับการควบคุม จะนำไปสู่การบานปลายที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ นี่คือสิ่งที่ทำให้สถานการณ์ในยูเครนเป็นอันตรายอย่างแท้จริง และเป็นสาเหตุด้วย เนื่องจากหลักการของตรรกะของกำลังที่ไม่สามารถควบคุมได้ ผมยินดีที่จะนำไปใช้กับสถานการณ์ในฉนวนกาซา นั่นคือสิ่งที่ทำให้นโยบายของอิสราเอลนำไปใช้กับฉนวนกาซาในปัจจุบันเป็นอันตรายอย่างแท้จริง เพราะไม่มีการควบคุมการใช้กำลัง และเมื่อคุณมอง [...] ทุกด้านเชื่อมโยงกัน วิกฤติทั้งหมดก็เชื่อมโยงกัน”

IMCT News

อ้างอิง https://twitter.com/RnaudBertrand/status/1766689428121297314