Thailand
ขอบคุณภาพจาก RT
26/5/2024
นับจากปี 2010 การชำระเงินข้ามแดนของจีนส่วนใหญ่ ก็เหมือนกับประเทศอื่นๆ คือ ใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 เป็นต้นมา สถานการณ์ไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว
ข้อมูลจากบลูมเบิร์ก แสดงให้เห็นการติดต่อซื้อขายของประเทศจีน โดยใช้เงินหยวน เงินดอลลาร์สหรัฐ และสกุลเงินอื่นๆ ตั้งแต่ปี 2010 ถึง 2024
โดยในช่วงไม่กี่เดือนแรกของปี 2010 การติดต่อซื้อขายข้ามแดนของประเทศจีน พึ่งพาเงินหยวนไม่ถึง 1% เท่านั้น ส่วนการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐมีมากถึง 83%
แล้วในเดือนมีนาคม 2023 ก็เป็นครั้งแรกที่จีนใช้เงินหยวนซื้อขายข้ามแดน แซงหน้าดอลลาร์สหรัฐ แล้วนับจากนั้น แนวคิดถอยห่างจากดอลลาร์สหรัฐ ก็ได้รับการผลักดันจากจีนต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
จนถึงเดือนมีนาคม 2024 จีนใช้เงินหยวนซื้อขายข้ามแดนเกินครึ่ง คือ 52.9% และใช้เงินดอลลาร์สหรัฐเหลือเพียง 42.8% ตัวเลขการใช้เงินหยวนเพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับ 5 ปีที่แล้ว
โกลด์แมนแซคส์ วาณิชธนกิจชื่อดังของสหรัฐ ระบุว่า คนต่างชาติมีความตั้งใจจะใช้เงินหยวนในการซื้อขายระหว่างประเทศมากขึ้น และเมื่อช่วงต้นปี 2023 บราซิลกับอาร์เจนติน่า ประกาศ จะเริ่มอนุญาตให้ใช้เงินหยวนในการค้า
การวิเคราะห์จาก Bank for International Settlement เผยว่า ในปี 2022 ดอลลาร์สหรัฐยังคงเป็นสกุลเงินที่ใช้กันมากที่สุดในการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ รองลงมาคือยูโร ตามมาด้วยเงินเยน
ส่วนเงินหยวนจีน แม้จะครองส่วนแบ่งค่อนข้างน้อยในการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แต่ก็มีการใช้เงินหยวนเพิ่มขึ้นมาตลอดในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ในขณะที่เงินยูโรและเงินเยน มีตัวเลขการใช้น้อยลงเรื่อยๆ
ถ้าเงินหยวนยังมีการใช้งานเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในการค้าโลก เงินดอลลาร์สหรัฐอาจหายไปจากการใช้งานในตลาดโลกสักวันหนึ่ง ผลกระทบจากการใช้ดอลลาร์น้อยลง ยังคงสับสนและไม่แน่นอน แต่ก็อาจจะมีตั้งแต่ภาคสินทรัพย์ทางการเงินของสหรัฐจะด้อยประสิทธิภาพลง ไปจนถึงตะวันตกจะไม่มีอำนาจในการคว่ำบาตรอีกต่อไป
และแม้เงินหยวนจะมีการใช้มากขึ้นในการจ่ายเงินข้ามแดน แต่เศรษฐกิจโลกในแบบที่ไม่ต้องใช้ดอลลาร์สหรัฐอย่างสมบูรณ์ ดูเหมือนจะยังไม่มีแนวโน้มเป็นไปได้ในอนาคตอันใกล้ และในระยะกลาง เนื่องจากจีนยังคงควบคุมเงินทุน ทำให้การจัดหาเงินหยวนนอกประเทศจีนยังเป็นไปอย่างจำกัด รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
By IMCT News
© Copyright 2020, All Rights Reserved