ขอบคุณภาพจาก fb Georgina’s Guevara
26/3/2024
คิมโยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของคิมจองอุน ผู้นำเกาหลีเหนือ ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น แสดงเจตจำนงที่จะพบปะกับพี่ชายของเธอโดยด่วนที่สุด จากการรายงานของ KCNA สื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ซึ่งทางรัฐบาลญี่ปุ่นก็ยอมรับว่า จริง
แต่คิมโยจองเห็นว่า การจะปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ขึ้นอยู่กับว่า ทางญี่ปุ่นจะตัดสินใจทางการเมืองในเชิงปฏิบัติอย่างไร เพราะนายกฯ ญี่ปุ่น น่าจะรู้ว่า แค่เขาต้องการพบปะผู้นำเกาหลีเหนือและตัดสินใจแบบนั้น ไม่ได้หมายความว่า เขาจะได้พบ หรือผู้นำเกาหลีเหนือจะยอมพบเขา
ญี่ปุ่นเคยยึดครองคาบสมุทรเกาหลีตั้งแต่ปี 1910 – 1945 ด้วยเหตุนี้ น้องสาวของคิมจองอุน จึงพูดต่อว่า เป็นที่ชัดเจนว่า ญี่ปุ่นเป็นคู่อริกับเกาหลีเหนือและละเมิดอำนาจอธิปไตยของพวกเรา ญี่ปุ่นจึงกลายเป็นศัตรูและจะตกเป็นเป้าโจมตีของเกาหลีเหนือด้วย
ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ของสองประเทศจึงให้บทเรียนว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความไม่ไว้ใจและเข้าใจผิด คิมโยจอง เห็นว่า การที่ผู้นำญี่ปุ่นอยากจะพบพี่ชายเธอ จึงไม่มีอะไรมากไปกว่าการเรียกคะแนนความนิยมทางการเมือง
น้องสาวของคิมจองอุนเคยพูดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า ผู้นำญี่ปุ่นอาจเยือนเกาหลีเหนือในวันหนึ่ง ซึ่งถ้าญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะเดินหน้าปรับปรุงความสัมพันธ์โดยอยู่บนพื้นฐานของการให้เกียรติซึ่งกันและกัน สองประเทศก็น่าจะเปิดฉากอนาคตใหม่ร่วมกันได้
ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศตึงเครียดจากความขัดแย้งย้อนกลับไปตั้งแต่ญี่ปุ่นเข้ามายึดครองคาบสมุทรเกาหลี ชาวเกาหลีกล่าวหาญี่ปุ่นว่า บังคับให้ผู้หญิงเกาหลีเป็นนางบำเรอกองทัพญี่ปุ่นในช่วงสงคราม และยังถูกบังคับใช้แรงงานอีกด้วย
ด้านนายกรัฐมนตรี คิชิดะ ของญี่ปุ่น บอกว่า เขาต้องการจะหารือกับคิมจองอุน โดยไม่มีเงื่อนไขใดใดทั้งสิ้น เป็นความพยายามส่วนตัวที่จะให้การประชุมสุดยอดผู้นำสองประเทศเกิดขึ้นครั้งแรกในรอบ 20 ปี
ส่วนที่น้องสาวคิมจองอุนออกมาพูดเช่นนั้น นายกฯญี่ปุ่นย้ำว่า ความสำคัญของการประชุมสุดยอดผู้นำ ก็คือการแก้ปัญหาในหลายประเด็น เช่น ชาวญี่ปุ่นที่เคยถูกสายลับเกาหลีเหนือลักพาตัวไปเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว แต่ทั้งหมดยังไม่มีการตัดสินใจในตอนนี้
ส่วนสหรัฐที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำระหว่างนายกฯญี่ปุ่นกับประธานาธิบดี โจ ไบเด้น วันที่ 10 เมษายน ( 2024 ) ก็เน้นย้ำถึงความสำคัญที่จะต้องมีการเจรจาและดำเนินนโยบายทางการทูตกับเกาหลีเหนือ
โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐขอยืนเคียงข้างญาติพี่น้องของชาวญี่ปุ่นที่ถูกลักพาตัวไป และยังคงเรียกร้องให้เกาหลีเหนือชำระหน้าประวัติศาสตร์ และตรวจสอบเต็มที่กรณียังมีตัวประกันชาวญี่ปุ่นสูญหายในเกาหลีเหนือ
เกาหลีเหนือยอมรับเมื่อปี 2002 ว่า ได้ลักพาตัวชาวญี่ปุ่นไป 13 คน ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา มีผู้ถูกลักพาตัวห้าคนและครอบครัวของพวกเขาถูกส่งคืนกลับญี่ปุ่นในเวลาต่อมา ส่วนคนอื่น เกาหลีเหนือบอกว่า เสียชีวิตไปแล้ว
แต่ญี่ปุ่นเชื่อว่า มีคนญี่ปุ่นถูกลักพาตัวไป 17 คน และยังคงสืบสวนต่อเนื่องถึงชะตากรรมของผู้ที่ไม่ได้กลับคืนประเทศ โฆษกระดับสูงของรัฐบาลญี่ปุ่น บอกว่า การที่เกาหลีเหนือยืนยันว่า กรณีลักพาตัวได้รับการแก้ไขแล้ว เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงอุปสรรคที่สองประเทศจะสมานฉันท์กันได้
เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ กล่าวว่า เกาหลีใต้เจรจาใกล้ชิดกับญี่ปุ่นในหลายประเด็นเชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือ รวมถึงประเด็นการสื่อสารระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ สหรัฐ และญี่ปุ่น กำลังดำเนินการเต็มที่ที่จะให้เกาหลีเหนือกลับเข้ามาอยู่ในเส้นทางของการปลดอาวุธนิวเคลียร์
เกาหลีเหนือถูกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสประชาชาติห้ามมาอย่างยาวนาน ไม่ให้ทดสอบนิวเคลียร์และเปิดตัวขีปนาวุธนำวิถี และถูกยูเอ็นคว่ำบาตรตั้งแต่ปี 2006
By IMCTNews