12/8/2024

แม้ว่าการซื้อทองคำของธนาคารกลางจะชะลอตัวลงเล็กน้อยในไตรมาสที่สอง แต่ก็สร้างสถิติใหม่ในครึ่งแรกของปี 2024

ธนาคารกลางทั่วโลกเพิ่มทองคำสุทธิ 483 ตันในช่วงหกเดือนแรกของปี ซึ่งสูงกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 460 ตันในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ร้อยละ 5

ในไตรมาสที่สอง ความต้องการทองคำของธนาคารกลางมีจำนวนทั้งสิ้น 183 ตัน ตามข้อมูลล่าสุดที่รวบรวมโดยสภาทองคำโลก ซึ่งเพิ่มขึ้น 6 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ต่ำกว่าจังหวะการซื้อในไตรมาส 1 ประมาณ 39 เปอร์เซ็นต์ 

เนื่องจากทองคำอยู่ที่หรือใกล้ระดับราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสกุลเงินส่วนใหญ่ จึงไม่น่าแปลกใจที่การซื้อของธนาคารกลางจะชะลอตัวลงในไตรมาสที่สอง

จีนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ความต้องการของธนาคารกลางชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 2 ธนาคารประชาชนจีนรายงานว่าไม่มีการเพิ่มเติมทองคำสำรองในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน และเพิ่มอย่างเป็นทางการเพียง 2 ตันในเดือนเมษายน

ก่อนที่จะมีการหยุดซื้อชั่วคราวในเดือนพฤษภาคม จีนได้เพิ่มการถือครองทองคำเป็นเวลา 18 เดือนติดต่อกัน

นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าจีนหยุดการเพิ่มทองคำลงในทุนสำรองอย่างเป็นทางการชั่วคราวเพื่อพยายามผลักดันราคาทองคำให้ต่ำลง

เมื่อจีนรายงานว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงปริมาณสำรองอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม ทำให้เกิดการขายทองคำอย่างตื่นตระหนก แม้จะมีปฏิกิริยาสะเทือนขวัญ แต่ดูเหมือนว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่จีนหยุดเติมทองคำลงในทุนสำรองของตนนอกจากนี้ยังมีการคาดเดากันว่าจีนกำลังเพิ่มทองคำจำนวนมากนอกบัญชีของทุนสำรอง

แม้ว่าจะมีการหยุดซื้อชั่วคราว แต่จีนก็ยังคงเพิ่มทองคำเกือบ 30 ตันลงในทุนสำรองจนถึงช่วงครึ่งแรกของปี 2024

ตุรกีเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดตลอดครึ่งปีแรก โดยเพิ่มทองคำในทุนสำรอง 45 ตัน การซื้อส่วนใหญ่อยู่ในไตรมาสที่ 1 โดยชะลอตัวลงเหลือ 15 ตันในไตรมาสที่สอง

ธนาคารกลางตุรกีซื้อทองคำเป็นเวลา 12 เดือนติดต่อกันหลังมีการขายออกไป 160 ตันในฤดูใบไม้ผลิปี 2023

อินเดียครองอันดับผู้ซื้อทองคำรายใหญ่อันดับสองตลอดครึ่งปีแรก ธนาคารกลางอินเดียได้เพิ่มทองคำลงในทุนสำรองทุกเดือนในปีนี้รวมเป็นจำนวน 37 ตัน

ในปี 2022 ธนาคารกลางอินเดียเพิ่มทองคำสำรอง 33 ตัน ตามด้วยการเพิ่มขึ้น 16 ตันในปีที่แล้ว

ธนาคารกลางอินเดียซื้อทองคำมาตั้งแต่ปี 2017 ในช่วงเวลาดังกล่าว RBI ได้เพิ่มการถือครองทองคำมากกว่า 260 ตัน

นักเศรษฐศาสตร์ชาวอินเดียบอกกับ Times of India ว่าแรงผลักดันให้มีการเพิ่มการถือครองทองคำนั้นขึ้นอยู่กับเหตุผลทางการเมืองและเศรษฐกิจ เขากล่าวว่า "ความน่าเชื่อถือ" ของเงินดอลลาร์สหรัฐ "ลดลง" เขาสังเกตเห็นความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ดอลลาร์สหรัฐฯ "ลดลงอย่างเห็นได้ชัด"

นักเศรษฐศาสตร์อีกคนบอกกับ Times ว่า “มันสมเหตุสมผลมาก (ในการลงทุนในทองคำ) เนื่องจากความผันผวนที่เพิ่มขึ้นในตลาด FX อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในสหรัฐฯ และแน่นอนว่า ธนาคารกลางในแต่ละเศรษฐกิจต้องการกระจายประเภทสินทรัพย์ที่พวกเขาถือครอง”

โปแลนด์เป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดในไตรมาสที่สอง โดยเพิ่มขึ้น 19 ตัน ปัจจุบันประเทศนี้มีทองคำสำรองอยู่ประมาณร้อยละ 13 ในการแถลงข่าวเมื่อต้นเดือนมิถุนายน Adam Glapiński ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติของโปแลนด์ ย้ำแผนการของเขาที่จะเพิ่มส่วนแบ่งทองคำจากทุนสำรองทั้งหมดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์

โปแลนด์เป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่อันดับสองในปี 2023 ธนาคารกลางโปแลนด์ซื้อทองคำ 130 ตันในปีที่แล้ว เพิ่มการถือครองทองคำ 57 เปอร์เซ็นต์เป็น 359 ตัน

ในปี 2021 Glapiński ได้ประกาศแผนการขยายปริมาณสำรองทองคำของประเทศอีก 100 ตัน ธนาคารกลางบรรลุเป้าหมายดังกล่าวในเดือนกันยายนปี 2023 และยังคงซื้อต่อไป

เมื่อเขาประกาศแผนการขยายการถือครองทองคำสำรอง Glapiński กล่าวว่าการถือครองทองคำเป็นเรื่องของความมั่นคงและเสถียรภาพทางการเงิน

“ทองคำจะรักษามูลค่าไว้ได้แม้ว่าจะมีคนตัดอำนาจของระบบการเงินโลกออกไป ด้วยการ ทำลายสินทรัพย์แบบเดิมผ่านบันทึกทางบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ แน่นอนว่าเราไม่คิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น แต่ดังคำกล่าวที่ว่า คำเตือนล่วงหน้าเป็นหลักประกันเสมอ และธนาคารกลางจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด นั่นคือเหตุผลที่เราเห็นสถานที่พิเศษสำหรับทองคำในกระบวนการจัดการการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของเรา”

ผู้ซื้อที่โดดเด่นอื่นๆ ในไตรมาสที่สอง ได้แก่:

อุซเบกิสถาน – 7 ตัน

สาธารณรัฐเช็ก – 6 ตัน

กาตาร์ – 4 ตัน

สิงคโปร์ – 4 ตัน

รัสเซีย – 3 ตัน

อิรัก – 3 ตัน

จอร์แดน – 1 ตัน

สาธารณรัฐคีร์กีซ – 1 ตัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิงคโปร์เป็นผู้ซื้ออย่างต่อเนื่องในปีนี้ ก่อนที่จะขายทองคำได้ 12 ตันในเดือนมิถุนายน

อุซเบกิสถานยังเป็นผู้ขายประจำในปีนี้ โดยกลับมาซื้อในเดือนพฤษภาคม ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ธนาคารที่ซื้อจากการผลิตในประเทศ เช่น อุซเบกิสถาน และคาซัคสถาน จะเปลี่ยนระหว่างการซื้อและการขาย

ฟิลิปปินส์เป็นผู้ขายรายใหญ่ที่สุดตลอดครึ่งปีแรก โดยลดปริมาณสำรองทองคำลงประมาณ 25 ตัน ประเทศไทยเป็นผู้ขายที่โดดเด่นอีกรายหนึ่ง โดยลดการถือครองลงเพียงไม่ถึง 10 ตัน

แม้ว่าความต้องการทองคำของธนาคารกลางจะปรับลดลงเล็กน้อยในไตรมาสที่ 2 แต่ก็ไม่มีข้อบ่งชี้ว่าพวกเขาหันหลังให้โลหะสีเหลือง จากการสำรวจของสภาทองคำโลกครั้งล่าสุด พบว่า 29 เปอร์เซ็นต์ของธนาคารกลางวางแผนที่จะเพิ่มทองคำให้กับทุนสำรองของตนในอีก 12 เดือนข้างหน้า

สภาทองคำโลกกล่าวว่าเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่การสำรวจเริ่มขึ้นในปี 2561 มีเพียงร้อยละ 3 เท่านั้นที่กล่าวว่าพวกเขามีแผนที่จะลดปริมาณสำรองทองคำ

IMCT News

ที่มา https://www.moneymetals.com/news/2024/08/05/central-bank-gold-buying-through-first-half-of-2024-sets-record-003358