ขอบคุณภาพจาก RT

24/7/2024

โจ ไบเดน ประกาศถอนตัวจากการลงชิงชัยเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐ เมื่อวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐ  และออกโรงหนุนรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ให้รับไม้ต่อจากเขา ในศึกเลือกตั้งปลายปีนี้   ส่งผลให้ราคาน้ำมันเริ่มต้นสัปดาห์ดีดขึ้นทันที หลังไบเดนประกาศว่า เขาไม่อยากจะลงสนามเลือกตั้งอีกต่อไปแล้ว  ไบเดนโพสต์ลง X ว่า เขาขอสนับสนุนกมลาให้เป็นตัวแทนพรรคชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐในปีนี้  ในนามเดโมแครต  มันเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนต้องร่วมใจกันและโค่นทรัมป์ให้ได้ มาทำสิ่งนี้ไปด้วยกัน

รัฐบาลของไบเดนเล่นงานอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซอย่างหนัก  เพราะต้องการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน   การที่เขาประกาศถอนตัวจากการเลือกตั้ง ส่งผลให้น้ำมันดิบเบรนท์ บวกขึ้นมาทันที หลังเปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ โดยพุ่งไปอยู่ที่ 83.03 ดอลลาร์ พุ่งขึ้น 0.50% ในการซื้อขายระหว่างวัน    ส่วนน้ำมันดิบ WTI ซื้อขายล่วงหน้า มีราคาพุ่งขึ้น 0.46% มาแตะ 79 ดอลลาร์ หลังเปิดตลาดเมื่อวันจันทร์เช่นกัน

แต่ถ้าว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ของสหรัฐ เล่นงานอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ หนักกว่า โจ ไบเดน เสียอีก   แฮร์ริสเคยมีประวัติไล่ฟ้องยักษ์ใหญ่ด้านน้ำมันและก๊าซ ในช่วงที่เธอเป็นอัยการสูงสุดในแคลิฟอร์เนีย   เธอยังประกาศตัวอย่างเปิดเผยว่า ต้องการแบนกรรมวิธีขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ ที่เรียกว่า  Fracking  ซึ่งเป็นการฉีดน้ำผสมสารเคมีและทรายจำนวนมหาศาลลงใต้ดินเพื่อทำให้เกิดรอยแตกในชั้นหิน  เพื่อให้ Shale Gas กับ Shale Oil ที่ถูกเก็บกักอยู่ระหว่างชั้นหินหลุดออกมา  วิธีนี้จะทำให้ได้ปริมาณปิโตรเลียมสูงกว่าวิธีอื่นถึง 3 เท่า  แต่ผลกระทบที่น่ากังวลว่าจะตามมาคือ การตกค้างของสารเคมีที่ใช้

ดังนั้น  ราคาน้ำมันจึงอาจร่วงได้ หากแฮร์ริสได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการ  หลังไบเดนประกาศถอนตัว    ส่วนความคาดหมายว่า ธนาคารกลางสหรัฐ จะเริ่มเข้าสู่วงจรการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ก็น่าจะมีส่วนชี้ชะตาราคาน้ำมันในอนาคตเช่นกัน

By IMCT News

อ้างอิงจาก https://watcher.guru/news/oil-prices-rise-after-biden-drops-out-of-presidential-race