ขอบคุณภาพจาก RT

6/10/2024

นักวิเคราะห์หลายคนจาก Bank of America ระบุว่า ทองคำแซงหน้าเงินยูโร เป็นสินทรัพย์ที่ธนาคารทั่วโลกแห่ตุนมากเป็นอันดับสองแล้ว   ธนาคารกลางในหลายประเทศซื้อทองตุนไว้อย่างมากมายในปีนี้  ทองคำสำรองตามธนาคารกลางต่างๆ จึงพุ่งแตะระดับสูงสุด  สินทรัพย์สำรองที่ธนาคารกลางทั่วโลกสะสมไว้  จึงเป็นทองคำมากเกือบ 16%

และในเวลาเดียวกัน  ดอลลาร์สหรัฐที่ธนาคารกลางทั่วโลกสำรองไว้ก็มีสัดส่วนลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ  เหลืออยู่ที่ 58%  เพราะตลาดในแถบตะวันออก หันมาสะสมทองคำแทนที่เงินกระดาษ

ธนาคารกลางทั่วโลกกระตือรือร้นที่อยากจะได้ทองคำ   ปี 2024 จึงเรียกได้ว่า เป็นปีแห่งทองคำ เพราะธนาคารกลางต่างๆ แห่ตุนทองกันอย่างรุนแรง    พวกเขาเข้าซื้อทองคำเกือบ 483 ตัน ในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้  หรือพุ่งขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งตัวเลขนี้อยู่ที่ 460 ตัน

แต่ในทางกลับกัน ตัวเลขจากสภาแอตแลนติก ก็ระบุว่า สัดส่วนการถือครองดอลลาร์เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ ลดลงเกือบ 14% ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา

The Kobeissi Letter ระบุว่า  ในช่วงไตรมาสสองของปีนี้  ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำรวม 183 ตัน  เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกันแบบปีต่อปี  แต่ถือว่า ยังน้อยกว่าถึง 39% เมื่อเทียบกับไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขการซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกมีมากถึง 300 ตัน ผู้ซื้อทองคำตุนไว้รายใหญ่สุด คือ ธนาคารกลางโปแลนด์  ธนาคารกลางอินเดีย และธนาคารกลางตุรกี

การลดดอกเบี้ยเมื่อไม่นานมานี้ของธนาคารกลางสหรัฐ  ส่างผลให้มูลค่าของเงินดอลลาร์ มีแนวโน้มจะเสื่อมลงชั่วขณะ   และในเวลาเดียวกัน  หนี้สินของสหรัฐก็พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว  ทั้งหมดนี้ ล้วนแต่ทำให้ยากขึ้นที่จะดึงดูดความสนใจจากต่างชาติได้   หนี้สหรัฐที่พอกพูน กลายเป็นปัญหาแล้วในเวลานี้ 

Rashad Hajiyev นักวิเคราะห์ตลาดเงินและนักวิจัยอิสระ จึงมองว่า ไม่เกินเลยที่ราคาทองคำจะตั้งเป้าไว้ที่ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์   ซึ่งเป็นราคาที่อยู่ห่างจากราคาปัจจุบันเพียง 25% เท่านั้น   สถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ใดใดก็ตาม อาจส่งผลให้ทองคำมีราคาพุ่งทะยานไปถึงดวงจันทร์ได้เลย   จึงมีแนวโน้มว่า ราคาทองคำอาจพุ่งแตะ 3,000 ดอลลาร์ ในอีก 2-3 เดือนต่อจากนี้

และตามปกติ  เมื่อราคาทองเคลื่อนไหวทุกๆ 1%  ราคาโลหะเงินจะเคลื่อนไหวไปด้วย 2%  ไม่ว่าจะเป็นราคาขึ้นหรือลงก็ตาม   ซึ่งในกรณีที่ทองคำมีราคาพุ่งแตะ 2,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ราคาโลหะเงินก็จะอยู่แถวๆ 36-37 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ เช่นกัน

By IMCT News

อ้างอิงจาก https://watcher.guru/news/euro-loses-ground-to-gold-as-us-dollar-reserves-decline