Thailand
ขอบคุณภาพจาก CGTN
15/8/2024
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ กล่าวเมื่อวานนี้ (14 ส.ค.) ว่า จะลาออกในเดือนหน้า (ก.ย.2024) โดยยอมจำนนต่อความไม่พอใจของประชาชนเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวทางการเมืองและค่าครองชีพที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อวาระการดำรงตำแหน่ง 3 ปีของเขา และจุดชนวนให้เกิดการแย่งชิงตำแหน่งผู้นำคนใหม่
“การเมืองไม่สามารถทำงานได้หากปราศจากความไว้วางใจของประชาชน” คิชิดะกล่าวในการแถลงข่าวเพื่อเปิดเผยการตัดสินใจไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ พรรค LDP ที่เป็นพรรครัฐบาลมายาวนาน “ผมตัดสินใจครั้งสำคัญนี้โดยคำนึงถึงประชาชน ด้วยเจตจำนงอันแน่วแน่ที่จะผลักดันการปฏิรูปการเมืองให้ก้าวไปข้างหน้า”
สำหรับพรรค LDP จะจัดการแข่งขันในเดือนกันยายน (2024) เพื่อแทนที่คิชิดะในตำแหน่งหัวหน้าพรรค และขยายไปยังตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
สำหรับความนิยมของคิชิดะลดลงหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งในปี 2021 หลังจากมีการเปิดเผยว่าพรรค LDP มีความสัมพันธ์อย่างไรกับโบสถ์แห่งความสามัคคีที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง และได้รับผลกระทบอีกครั้งเมื่อกองทุนลับที่บริจาคเงินทางการเมืองที่ไม่ได้บันทึกไว้ในงานระดมทุนของพรรค LDP ถูกเปิดเผย
นอกจากนี้ คิชิดะยังเผชิญกับความไม่พอใจของประชาชนเนื่องจากค่าแรงไม่สามารถตามทันค่าครองชีพที่สูงขึ้นได้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ญี่ปุ่นสามารถสลัดแรงกดดันด้านเงินฝืดที่กินเวลานานหลายปีออกไปได้
“นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของพรรค LDP ไม่สามารถลงสมัครชิงตำแหน่งผู้นำพรรคได้ เว้นแต่จะมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะ” ศาสตราจารย์โคอิจิ นากาโน ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโซเฟียกล่าว
“มันเหมือนกับแชมป์เปี้ยนโยโกซูนะของซูโม่ คุณไม่ได้แค่ชนะ แต่คุณต้องชนะอย่างสง่างามด้วย”
ขณะที่ผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำพรรค LDP ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นโดยปริยาย จะต้องเผชิญกับภารกิจในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อพรรค รวมถึงจัดการกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นกับจีน และความเป็นไปได้ที่โดนัลด์ ทรัมป์จะกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีหน้า (2025)
IMCT News
© Copyright 2020, All Rights Reserved