เซเลนสกีอ่อนข้อ ยอมเปิดแผนข้อเสนอหยุดยิงในสงครามยูเครน
30-11-2024
โวโลดิเมียร์ เชเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้เปิดประเด็นนำเสนอร่างข้อเสนอหยุดยิงในสงครามยูเครนที่ดำเนินมาเป็นเวลาเกือบ3ปีแล้วตามแรงกดดันของว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ที่ต้องการยุติความขัดแย้ง
ในการให้สัมภาษณ์กับสกายนิวส์ เซเลนสกีแนะนำให้พื้นที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครนให้ไปอยู่ “ภายใต้ร่มของนาโต้”ในแง่ความมั่นคง และการรักษาความปลอดภัย ในขณะเดียวกันก็อนุญาตให้รัสเซียครอบครองดินแดนที่ผนวกเอาไว้เกือบ20%เป็นการชั่วคราว
เขาอธิบายว่าเป้าหมายสูงสุดคือการทวงคืนดินแดนที่รัสเซียยึดไปแล้ว (ลูฮันส์ก โดเน็ตส์ ซาโปริเซีย เคอซอน และไครเมีย) “ด้วยวิธีการทางการทูต” ในภายหลัง
ข้อเสนอนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อยุติ “ช่วงสงครามที่ร้อนแรง” และรับประกันความมั่นคงของยูเครน เซเลนสกีเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนของแผน โดยระบุว่า "เราต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว" เขากล่าวเพิ่มเติมว่าการหยุดยิงถือเป็นสิ่งสำคัญในการ “รับประกันว่าปูตินจะไม่กลับมายึดดินแดนยูเครนอีกต่อไป”
ปัจจุบัน ประมาณหนึ่งในห้าของดินแดนของยูเครนยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย มอสโกไม่ได้แสดงความตั้งใจที่จะสละพื้นที่เหล่านี้ และก่อนหน้านี้เซเลนสกีเองก็ยืนกรานที่จะปฏิเสธที่จะยอมยกดินแดนยูเครนที่เคยเป็นของรัสเซียอยู่แล้วให้กับรัสเซีย
แม้ว่ายังไม่ได้เข้าทำงานเป็นประธานาธิบดีในทำเนียบขาว เป็นที่เข้าใจกันว่าทรัมป์มีการดำเนินการให้มีการยุติความขัดแย้งในยูเครน เพราะตระหนักดีว่า นาโต้และยูเครนไม่มีความสามารถในการต้านทานศักยภาพของกองทัพรัสเซีย ถ้าหากสงครามดำเนินต่อไป ยูเครนอาจจะเสียดินแดนท้ังประเทศให้กับรัสเซีย แต่ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้เปิดทางให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลเพื่อยิงลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย เพื่อช่วยสร้างอำนาจการต่อรองให้ยูเครนในการเจรจาการหยุดยิง
แนวคิดในการวางดินแดนว่างของยูเครนให้อยู่ภายใต้การคุ้มครองของนาโต้ขณะเดียวกันก็จัดการกับสถานะของภูมิภาคที่ถูกยึดครองผ่านการทูต ถือเป็นการละทิ้งจุดยืนก่อนหน้านี้ของ Zelensky อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางเชิงปฏิบัติเพื่อให้บรรลุการหยุดยิงโดยทันที ขณะเดียวกันก็รักษาอำนาจอธิปไตยในระยะยาวของยูเครน
ความเป็นไปได้ของข้อเสนอยังคงไม่แน่นอน การเป็นสมาชิกนาโตสำหรับยูเครนเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกันอย่างมาก และการควบคุมภูมิภาคใหม่อย่างต่อเนื่องของรัสเซียถือเป็นอุปสรรคสำคัญ อย่างไรก็ตาม คำกล่าวของเซเลนสกีแสดงให้เห็นถึงโอกาสในการเปิดการเจรจาในความขัดแย้งที่ก่อให้เกิดความหายนะและการสูญเสียดินแดนคร้ังใหญ่
ขณะที่สงครามดำเนินไป คำกล่าวของเซเลนสกีอาจส่งสัญญาณถึงความเต็มใจที่จะสำรวจวิธีแก้ปัญหาที่แหวกแนวเพื่อยุติการนองเลือดไปพร้อมๆ กับการปกป้องอนาคตของยูเครน ข้อเสนอนี้จะได้รับความสนใจหรือไม่นั้นจะขึ้นอยู่กับคำตอบจากมอสโก นาโต้ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักอื่นๆ