สหรัฐฯ ระงับความร่วมมือทางยุทธศาสตร์กับจอร์เจีย ด้าน EU ออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลใช้ความรุนแรงสลายม็อบ "ย้ำประตูสู่ EU ยังคงเปิดอยู่"
2-12-2024
Newsweek รายงานว่า สหรัฐอเมริกาประกาศระงับความร่วมมือทางยุทธศาสตร์กับจอร์เจีย หลังรัฐบาลพรรคจอร์เจียนดรีมตัดสินใจระงับการเจรจาเข้าร่วมสหภาพยุโรป (EU) เป็นเวลา 4 ปี และใช้ความรุนแรงปราบปรามการชุมนุมประท้วงของประชาชน
แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ วิจารณ์ว่า การตัดสินใจของพรรครัฐบาลทำให้จอร์เจียพลาดโอกาสกระชับความสัมพันธ์กับยุโรปและเสี่ยงต่อการถูกคุกคามจากรัสเซียมากขึ้น ขณะที่มาร์กุส ซาห์คนา รัฐมนตรีต่างประเทศเอสโตเนีย กล่าวหาว่าพรรคจอร์เจียนดรีมพยายามควบคุมประเทศด้วยการโกหกและข่มขู่ เพื่อผลักดันจอร์เจียให้เข้าใกล้รัสเซียแทนที่จะเป็น EU
สถานการณ์ในจอร์เจียทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อผู้ประท้วงพยายามบุกเข้ารัฐสภาและวางเพลิงในหลายจุด ส่งผลให้ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำสลายการชุมนุม โดยรัฐบาลขู่จะใช้มาตรการพิเศษทุกรูปแบบตามกฎหมายหากการประท้วงยังไม่ยุติ
ความขัดแย้งยิ่งบานปลายเมื่อนางซาโลเม ซูราบิชวิลี ประธานาธิบดีที่สนับสนุนตะวันตก ประกาศจะไม่พ้นตำแหน่งแม้วาระจะสิ้นสุดในเดือนนี้ โดยอ้างว่ารัฐสภาชุดปัจจุบัน "ไม่ชอบธรรม" หลังมีข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตเลือกตั้งที่ให้พรรคจอร์เจียนดรีมชนะด้วยคะแนน 54% ซึ่งรัฐสภายุโรประบุว่ามี "การทุจริตที่สำคัญ" และเรียกร้องให้จัดเลือกตั้งใหม่ภายในหนึ่งปี
อย่างไรก็ตาม นายอิราคลี โคบาคิดเซ นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย กล่าวว่าการระงับความร่วมมือของสหรัฐฯ เป็นเพียง "เหตุการณ์ชั่วคราว" และจะหารือกับรัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม พร้อมวิจารณ์ว่า EU ใช้รัฐสภายุโรปเป็นเครื่องมือแบล็กเมล์จอร์เจีย
สหรัฐฯ เรียกร้องให้รัฐบาลจอร์เจียกลับสู่แนวทางยูโร-แอตแลนติก ยกเลิกกฎหมายที่จำกัดเสรีภาพในการชุมนุมและแสดงออก และสอบสวนการทุจริตเลือกตั้งอย่างโปร่งใส พร้อมประณามการใช้กำลังเกินกว่าเหตุต่อผู้ชุมนุม โดยความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2552 ครอบคลุมประเด็นด้านประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และการต่อต้านการทุจริต
----ที่มา https://www.newsweek.com/us-georgia-suspend-strategic-partnership-protests-russia-1993765
ทางด้าน สหภาพยุโรป (EU) ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจของพรรคจอร์เจียนดรีม นำโดยนายอิราคลี โคบาคิดเซ ที่ประกาศระงับการเจรจาเข้าร่วม EU และปฏิเสธความช่วยเหลือทางการเงินจนถึงปี 2571
Kaja Kallas รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และ Marta Kos กรรมาธิการด้านการขยายสมาชิก ระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวขัดกับนโยบายของรัฐบาลจอร์เจียทุกชุดที่ผ่านมา และความปรารถนาของประชาชนส่วนใหญ่ที่ต้องการเข้าร่วม EU ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
EU ประณามอย่างรุนแรงต่อการใช้ความรุนแรงของรัฐบาลต่อผู้ชุมนุมที่ออกมาประท้วงอย่างสงบเพื่อแสดงเจตจำนงในการเข้าร่วม EU พร้อมเรียกร้องให้ทางการจอร์เจียเคารพเสรีภาพในการชุมนุมและแสดงออก งดใช้กำลังต่อผู้ประท้วง นักการเมือง และสื่อมวลชน รวมถึงต้องสอบสวนเหตุรุนแรงทุกกรณีและนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ
แถลงการณ์ยังแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการถดถอยของประชาธิปไตยในจอร์เจีย รวมถึงการทุจริตในการเลือกตั้งรัฐสภาที่ผ่านมา โดย EU กำลังรอรายงานขั้นสุดท้ายและข้อเสนอแนะจากองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) และสำนักงานสถาบันประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน (ODIHR)
อย่างไรก็ตาม EU ยืนยันว่าจะยังคงยืนหยัดเคียงข้างประชาชนจอร์เจียและความมุ่งมั่นที่จะมีอนาคตร่วมกับยุโรป โดยประตูสู่ EU ยังคงเปิดอยู่เสมอ แต่การกลับคืนสู่ค่านิยมยุโรปและเส้นทางการเข้าร่วม EU นั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้นำจอร์เจียเอง
---
ที่มา https://ec.europa.eu/commission/presscorner/detail/en/statement_24_6161