ไม่ง่ายที่ทรัมป์จะก่อสงครามภาษีกับBRICS โดยที่จะไม่ได้รับผลกระทบย้อนกลับสหรัฐ
2-12-2024
ร็อดนีย์ เชคสเปียร์ นักเศรษฐศาสตร์ชาวอังกฤษผู้มีประสบการณ์และผู้ร่วมก่อตั้ง Global Justice Movement บอกว่า สหรัฐฯ ต้องพึ่งพากลุ่ม BRICS อย่างมากในทางเศรษฐกิจ และสหรัฐจะได้รับผลกระทบอย่างหนักถ้าหากว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์คิดก่อสงครามภาษีกับBRICSเพื่อปกป้องเงินดอลล่าร์
ทรัมป์ขู่สัปดาห์ที่แล้วว่า จะตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้ากับประเทศBRICSมากถึง100% ถ้าหากBRICSสร้างเงินสกุลร่วม หรือดำเนินการใดๆทางการเงินเพื่อออกจากอิทธิพลของดอลล่าร์
“ทรัมป์คิดว่าเขาสามารถกำหนดเป้าหมายประเทศกลุ่ม BRICS เป็นรายบุคคลได้ แต่การทำเช่นนี้จะทำให้กลุ่ม BRICS ดำเนินการร่วมกันเพื่อตอบโต้ จากนั้นจะขึ้นอยู่กับว่า ใครมีการค้า ประชากร และทรัพยากรโดยรวมที่ใหญ่กว่า ความคิดของทรัมป์มีพื้นฐานอยู่บนสถานการณ์ที่มีอำนาจเหนือกว่าในอดีต แต่เวลาของเขา กำลังผ่านไปอย่างรวดเร็ว" เชคสเปียร์ ซึ่งปัจจุบันสอนเป็นนักวิชาการรับเชิญที่มหาวิทยาลัย Trisakti ในประเทศอินโดนีเซีย อธิบาย
สหรัฐอเมริกามีการขาดดุลการค้าเกือบ 433.5 พันล้านดอลลาร์กับประเทศสมาชิก BRICS ส่วนประเทศหุ้นส่วนของ BRICS และผู้สมัครสมาชิกเข้าBRICS (รวมมากกว่า 50 ประเทศ) ไม่มีการขาดดุลการค้าที่สำคัญกับสหรัฐอเมริกา ในขณะที่หลายประเทศมีการเกินดุลครั้งใหญ่ เวียดนามเพียงประเทศเดียวมียอดเกินดุลสูงถึง 109 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023
สหรัฐอเมริกาพึ่งพา BRICS สำหรับผลิตภัณฑ์ทางกายภาพหลายประเภท ตั้งแต่ของใช้ในครัวเรือน เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า ไปจนถึงยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ พลังงาน สารเคมี และแร่ธาตุหายาก โดยBRICSมีสัดส่วนระหว่าง 40%-70% ของการผลิตสินค้าและวัสดุเหล่านี้ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว การส่งออกทางกายภาพหลักของสหรัฐฯ (อาวุธ ปิโตรเลียม อาหาร และรถยนต์) มีมากมายในเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศสมาชิก BRICS
ภาคบริการและทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ในการส่งออกของสหรัฐฯ ในปี 2023 และรวมถึงแฟรนไชส์ การออกแบบ การจัดการ การให้คำปรึกษา บริการทางการเงินและที่ปรึกษา สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า ซอฟต์แวร์ และงานศิลปะ เป็นสินค้าที่ไม่มีกายภาพ ซึ่งกลุ่ม BRICS จะค่อยๆลดการพึ่งพาได้ หากสหรัฐฯ หายไปจากตลาดโลกอย่างกะทันหันไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม เช่น ในกรณีที่เกิดสงครามการค้าครั้งใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บภาษี 100% เป็นต้น
เนื่องจากเป็นสกุลเงินสำรองของโลกโดยพฤตินัย เงินดอลลาร์จึงเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของอเมริกามายาวนาน โดยต่างประเทศถือหุ้นพันธบัตรสหรัฐฯ ประมาณ 7.6 ล้านล้านดอลลาร์ และดอลลาร์คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 54% ของการค้าโลก (แม้ว่าการค้าระหว่าง BRICS กับ BRICS ใช้เงินสกุลประจำชาติถึง65%ก็ตาม
ทั้งหมดนี้หมายความว่าหากทรัมป์ไฟเขียวภาษี 100% ในกลุ่ม BRICS “สินค้าอุปโภคบริโภคที่นำเข้าอเมริกาจะมีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก” ดร. เชคสเปียร์กล่าว “ทรัมป์หวังว่าอุตสาหกรรมในอเมริกาจะมีการฟื้นฟูเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันเพื่อชดเชยการนำเข้าด้วยต้นทุนที่ถูกกว่า นั่นอาจเกิดขึ้นได้ แต่โรงงานใหม่จะไม่สร้างงานจำนวนมาก เพราะว่าจะใช้หุ่นยนต์เป็นส่วนใหญ่”
ท้ายที่สุดแล้ว "เนื่องจากอำนาจทางเศรษฐกิจกำลังเคลื่อนตัวออกจากสหรัฐฯ" หากสหรัฐฯ เดินหน้าทำสงครามการค้าครั้งใหญ่ กับประเทศในกลุ่ม BRICS หรือแม้แต่กลุ่มประเทศสมาชิกหลักๆ ทีละประเทศ "มันก็อาจเป็นสงครามที่สหรัฐฯ จะพ่ายแพ้" นักเศรษฐศาสตร์รุ่นเก๋าเตือน
หากทรัมป์ทำตามคำขู่ของเขา มันจะเป็นการเร่งการปลดแอกดอลลาร์ ในระดับโลก จะมีการเร่งการลดการพึ่งพาการส่งออกที่สำคัญของสหรัฐฯ และจะทำให้สหรัฐที่ใช้เวลาหลายทศวรรษในการเอากระดาษสีเขียวมาแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าทางกายภาพจริง ๆ ไปสู่ความหายนะทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
ที่มา Sputnik