2/5/2024

เมื่อวันพุธ(1พฤษภาคม)ที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารของ“ไบเดน” และ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยมาตรการคว่ำบาตรต่อต้านรัสเซียใหม่เกือบ 300 รายการ ซึ่งกำหนดเป้าหมายไปที่หน่วยงานบุคคลที่สามโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทจีน ซึ่งถูกกล่าวหาว่าช่วยรัสเซียในการทำสงครามกับยูเครน

กระทรวงการคลังกล่าวในการแถลงว่า “เป้าหมายเกือบ 300 เป้าหมายที่ทั้งกระทรวงการคลังและกระทรวงการต่างประเทศคว่ำบาตร รวมถึงการคว่ำบาตรผู้มีบทบาทหลายสิบรายที่ทำให้รัสเซียได้รับเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างยิ่งจากต่างประเทศ”

มีบริษัท 20 แห่งที่ตั้งอยู่ในจีนและฮ่องกงได้รับการเสนอชื่อให้ถูกคว่ำบาตร เนื่องจากมีการส่งสินค้าใช้คู่ หรือใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือในเชิงการทหารไปให้อุสาหกรรมผลิตอาวุธของรัสเซีย

นอกจากนี้ บริษัทในตุรกี เบลเยียม อาเซอร์ไบจาน สโลวาเกีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ก็ตกเป็นเป้าหมายของการคว่ำบาตรเช่นเดียวกัน

“กระทรวงการคลังเตือนมาโดยตลอดว่าบริษัทต่างๆ จะเผชิญกับผลที่ตามมาที่สำคัญจากการให้การสนับสนุนด้านวัตถุดิบสำหรับการทำสงครามของรัสเซีย และในวันนี้สหรัฐฯได้มีการระบุเกือบ 300 เป้าหมายที่จะถูกแซงชั่น” เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังกล่าวในแถลงการณ์

สัปดาห์ที่แล้วระหว่างการเยือนจีน รัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคน ได้เตือนเกี่ยวกับการสนับสนุนของปักกิ่งต่อสงครามของรัสเซียในยูเครน โดยบอกว่าจีนเป็น “ซัพพลายเออร์ชั้นนำ” ของฐานอุตสาหกรรมด้านกลาโหมของรัสเซีย ถ้าไม่มีจีนให้ความช่วยเหลือ รัสเซียจะตกที่นั่งลำบาก

การสนับสนุนอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศของรัสเซียนี้ยังถือเป็น "ภัยคุกคามระยะกลางถึงระยะยาวที่ชาวยุโรปจำนวนมากรู้สึกอย่างชัดแจ้งว่ารัสเซียมีต่อพวกเขา" 

บลิงเคนเรียกร้องให้จีนถอนการสนับสนุนรัสเซีย รวมทั้งไม่ให้ยุ่งเกี่ยวในสงครามในตะวันออกกลาง มิเช่นนั้นแล้วจีนจะถูกสหรัฐตอบโต้ด้วยมาตรการที่รุนแรง หากยังคงส่งสินค้าและเทคโนโลยีแบบใช้สองทางไปยังรัสเซีย รวมถึงสินค้าที่วอชิงตันระบุว่าเป็นปัญหาก่อนหน้านี้ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ เครื่องมือกล สารตั้งต้นทางเคมี ตลับลูกปืน และระบบแสง

จากการดำเนินการของกระทรวงการคลังเมื่อวันพุธ เป็นที่ชัดเจนว่ากำลังเตรียมการคว่ำบาตรอยู่แล้ว แม้ว่าบลิงเคนจะอยู่ระหว่างการเดินทางสามวันไปจีนในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งรวมถึงการเข้าพบประธานาธิบดีสีด้วย

มาตรการแซงชั่นจีนของสหรัฐสะท้อนให้เห็นว่าคำขู่ของบลิงเคนไม่ได้ผล เนื่องจากไม่ได้รับการตอบสนองจากจีนแต่ประการใด ในขณะที่จีนให้การต้อนรับบลิงเคนอย่างเย็นชาที่สุด

IMCT News

ที่มา รอยเตอร์