Thailand
ผู้ช่วย รมต.กต.แจงยังไม่เคยมีการยกเลิก MOU 44 ย้ำเป็นกลไกเจรจารักษาประโยชน์ประเทศที่ดีที่สุด ซัดคนบิดเบือนไม่ปรารถนาดีต่อชาติ เผย กต.เตรียมชง ครม.ตั้ง JTC 19 พ.ย.นี้
13/11/2024
นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ได้โพสต์ในเพจทูตนอกแถว จากมติชนว่า... เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ชี้แจงย้ำถึงความสำคัญและความจำเป็นของ “บันทึกความเข้าใจไทย-กัมพูชา ปี 2544” หรือ MOU 44 ดังนี้
1.”MOU44″ เป็นเพียงการกำหนดกรอบ และกลไกการเจรจาเกี่ยวกับพื้นที่อ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นมากว่า 50 ปีแล้ว โดยให้เจรจากันทั้งเรื่องเขตทางทะเลและการแบ่งปันผลประโยชน์ในไหล่ทวีปไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่กฎหมายระหว่างประเทศกำหนดไว้ โดยไม่ได้เป็นการยอมรับการอ้างสิทธิของอีกฝ่าย จนกว่าจะมีข้อยุติ โดย MOU44 เป็นเพียงการกำหนดกรอบกลไกในการเจรจา ซึ่งยังไม่มีผลของการเจรจาใดๆ จึงยังไม่จำเป็นต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
2.หากท้ายที่สุด ผลของการเจรจาตาม MOU44 เมื่อมีข้อยุติ และมีบทสรุปแล้วนั้น จะต้องนำผลสรุปดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา เพื่อให้ได้รับความเห็นจากรัฐสภาก่อน จึงจะมีผลในทางกฎหมาย ซึ่งหมายความว่า ผลการเจรจาใดๆ ในเรื่องนี้ประชาชนชาวไทยจะต้องให้ความเห็นชอบผ่านผู้แทน ส.ส. และ ส.ว.ก่อน ตามระบอบประชาธิปไตยที่ตรวจสอบได้ จึงจะมีผลบังคับทั้งเรื่องอธิปไตยของประเทศ และการนำทรัพยากรมูลค่ามหาศาลมาใช้ เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้ประเทศชาติ ซึ่งจะเป็นผลประโยชน์ต่อประชาชนทั้งหมด โดยไม่สามารถเป็นของใครบางคนได้
พร้อมยังย้ำว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไทยส่วนใหญ่ล้วนยึดถือแนวทางตาม MOU44 นี้ ซึ่งแม้จะเคยมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในปี 2552 ให้ยกเลิกในหลักการ แต่ก็ขอให้ศึกษาผลดีและเสียให้รอบคอบเสียก่อน ซึ่งจากการศึกษาของหน่วยงานต่างๆ พบว่า MOU44 มีข้อดีมากกว่า ต่อมาในปี 2557 คณะรัฐมนตรีจึงได้อนุมัติให้คง MOU44 ไว้ ดังนั้น จึงยังไม่เคยมีการยกเลิก MOU44 อย่างเป็นทางการจนถึงปัจจุบันแต่อย่างใด และ MOU44 จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศชาติ ในทั้งเรื่องเขตทางทะเล และการแบ่งปันผลประโยชน์ในไหล่ทวีป รวมทั้งการยกเลิก MOU44 ก็ไม่ได้ทำให้เส้นอ้างสิทธิของฝ่ายกัมพูชาหายไปแต่อย่างใด
3.”เกาะกูด” เป็นดินแดนของไทยที่แน่ชัดมาตั้งแต่ปี 2450 ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศสแล้ว ซึ่งไม่อาจเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นได้ และจะไม่มีการเจรจาใดๆ ในประเด็นนี้ทั้งสิ้น และผู้ใดที่พยายามพูดบิดเบือนเป็นอย่างอื่น ถือได้ว่าไม่มีความปราถนาดีต่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทย
---
ที่มา เพจทูตนอกแถว https://www.facebook.com/share/14wzWgyxjG/
© Copyright 2020, All Rights Reserved