สหรัฐฯ พลิกแผนสร้างฐานป้องกันขีปนาวุธเกาะกวม เตรียมรับมือ DF-26 'นักฆ่ากวม' จากจีน
6/11/2024
Photo by: U.S. Navy photo
สำนักงานป้องกันขีปนาวุธ (MDA) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยการปรับลดแผนการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธและทางอากาศแบบบูรณาการบนเกาะกวม โดยจะติดตั้งเครื่องสกัดกั้นและเซ็นเซอร์เพียง 16 ฐาน จากแผนเดิมที่กำหนดไว้ 35 แห่ง
The Washington Times รายงานว่า MDA และกองทัพสหรัฐฯ ได้เผยแพร่ร่างรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 67 สำหรับโครงการระบบป้องกันภัยทางอากาศและขีปนาวุธแบบบูรณาการที่เพิ่มประสิทธิภาพ (Enhanced Integrated Air and Missile Defense - EIAMD) ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญของกองบัญชาการอินโด-แปซิฟิก เพื่อรับมือภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากขีปนาวุธจีน
รายงานข่าวกรองกลาโหมสหรัฐฯ ที่เผยแพร่กลางเดือนตุลาคม ระบุว่าจีนกำลังขยายกำลังขีปนาวุธพิสัยกลาง DF-26 ที่ปักกิ่งขนานนามว่า "นักฆ่ากวม" ด้วยพิสัยการยิง 2,500 ไมล์
เกาะกวมซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งจีน 1,800 ไมล์ เป็นศูนย์กลางทางทหารสำคัญของสหรัฐฯ ที่ตั้งของเรือรบ เรือดำน้ำ เครื่องบินทิ้งระเบิด และคลังอาวุธ สำหรับปฏิบัติภารกิจป้องกันไต้หวันหรือฟิลิปปินส์ในอนาคต ซึ่งทั้งสองประเทศกำลังเผชิญแรงกดดันจากจีนที่เพิ่มขึ้น
ระบบป้องกันใหม่นี้จะให้การคุ้มครองแบบ 360 องศาจากการโจมตีทางอากาศและขีปนาวุธ โดยจะเสริมกำลังเพิ่มเติมจากระบบที่มีอยู่เดิมคือ ระบบต่อต้านขีปนาวุธพิสัยสูง THAAD และระบบขีปนาวุธ Patriot
การอัพเกรดจะประกอบด้วยเครือข่ายใหม่ของระบบ THAAD, Patriot PAC-3, ระบบสกัดกั้นขีปนาวุธ SM-6 และ SM-3 Block IIA ของกองทัพเรือ ระบบ Aegis Ashore พร้อมเรดาร์และเซ็นเซอร์เทคโนโลยีขั้นสูง
เฟรด แฮร์ โฆษก MDA เปิดเผยว่า แผนเดิมระบุพื้นที่ประมาณ 35 แห่งในเขตกระทรวงกลาโหมและหนึ่งแห่งนอกเขตรัฐบาล สำหรับติดตั้งองค์ประกอบของระบบ ก่อนปรับลดเหลือ 21 ฐานในเขตทหารและหนึ่งพื้นที่เอกชน
"อย่างไรก็ตาม หลังการประเมินเพิ่มเติมด้านสิ่งแวดล้อม การเข้าถึงพื้นที่ และข้อจำกัดด้านปฏิบัติการ ทำให้ต้องปรับลดจำนวนพื้นที่เป้าหมายเหลือเพียง 16 แห่ง" นายแฮร์กล่าว
ด้านทอม แมนซิเนลลี รักษาการปลัดกระทรวงกลาโหมฝ่ายกองทัพเรือ ซึ่งเดินทางเยือนกวมเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ย้ำว่า "กวมเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนสหรัฐฯ และอยู่ใกล้ปักกิ่งมากกว่าฮาวาย หากการยับยั้งล้มเหลว เราจะสู้จากกวมและเพื่อกวม"
งบประมาณปี 2024 ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จัดสรรเงิน 1.5 พันล้านดอลลาร์สำหรับระบบป้องกันนี้ โดยร่างรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมความยาวกว่า 7,600 หน้า ครอบคลุมประเด็นต่างๆ รวมถึงผลกระทบของเรดาร์กำลังสูงต่อการสื่อสารการบิน ระบบบำบัดน้ำเสียและการระบายน้ำ ซึ่งเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะ 75 วัน
โครงการนี้อาจเริ่มดำเนินการในปีหน้าและคาดว่าจะพร้อมปฏิบัติการเต็มรูปแบบภายในปี 2035 โดยจะมีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเรื่องการติดตั้งในต้นปี 2025 พร้อมรองรับกำลังพลประมาณ 1,000 นาย และครอบครัวอีก 1,300 คน
นอกจากระบบยิงขีปนาวุธมาตรฐานภาคพื้นดินแล้ว องค์ประกอบสำคัญอีกส่วนคือระบบป้องกันขีปนาวุธ Aegis Ashore ซึ่งเป็นเวอร์ชันภาคพื้นดินของระบบ Aegis บนเรือรบ รวมถึงระบบ THAAD และ Patriot ที่มีอยู่เดิม ตลอดจนระบบอาวุธพลังงานกำกับทิศทางและระบบป้องกันทางอากาศ
IMCT NEWS
ที่มา https://www.washingtontimes.com/news/2024/oct/31/pentagon-slashes-planned-missile-defense-sites-gua/