ขอบคุณภาพจาก Xinhua
01.09.2024
เวียดนามและฟิลิปปินส์ได้ตกลงกันที่จะผลักดันความสัมพันธ์ด้านการป้องกันประเทศและกองทัพ รวมถึงการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเล ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของสองประเทศที่ขัดแย้งกับจีนมานานในทะเลจีนใต้
รัฐมนตรีกลาโหมเวียดนามเยือนกรุงมะนิลาเพื่อหารือกับรัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นการเยือนครั้งแรกในฐานะรัฐมนตรี และได้เข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดี Ferdinand Marcos Jr. ของฟิลิปปินส์ก่อนหน้านี้ด้วย
กระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์แถลงว่า "รัฐมนตรีทั้งสองแสดงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศและกองทัพผ่านการมีปฏิสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องในทุกระดับ"
ทั้งสองชาติได้ตั้งเป้าที่จะลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศก่อนสิ้นปีนี้ โดยได้ลงนามใน "หนังสือแสดงเจตจำนง" เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมในการตอบสนองต่อภัยพิบัติและทหารเหล่าแพทย์ ทั้งยังตกลงที่จะแก้ไขความขัดแย้งอย่างสันติภายในกรอบของกฎหมายระหว่างประเทศอีกด้วย
"ทั้งสองฝ่ายยอมรับถึงความสำคัญของการรักษาสันติภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย และเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งรู้จักกันในชื่อทะเลเวสต์ฟิลิปปินส์หรือทะเลจีนใต้"
การประชุมของพวกเขาเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้กำลังปะทุขึ้นและยังมีความกังวลของนานาชาติเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สถานการณ์จะบานปลาย โดยจีนและฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ ได้วิวาทกันเกือบทุกสัปดาห์ติดต่อกันเป็นเวลานานกว่าหนึ่งปีแล้ว
ฟิลิปปินส์และมหาอำนาจตะวันตกต่างไม่พอใจกับการกระทำของกองเรือยามฝั่งขนาดใหญ่ที่จีนส่งไปประจำการทั่วทะเลจีนใต้ ซึ่งฟิลิปปินส์กล่าวหาว่าจีนรุกรานและใช้กลวิธีอันตรายในการกีดขวางเรือของตน ส่วนจีนซึ่งอ้างสิทธิ์เกือบทั้งทะเลจีนใต้ก็กล่าวหาฟิลิปปินส์เช่นกันว่าก่อการยั่วยุและบุกรุกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เวียดนามพยายามสร้างสมดุลกับจีนที่บางครั้งก็ล่วงล้ำอธิปไตยเวียดนาม เพราะจีนถือเป็นเพื่อนบ้านยักษ์ใหญ่และเป็นคู่ค้าสำคัญ หน่วยยามชายฝั่งของเวียดนามและจีนยังได้ลาดตระเวนร่วมกันเป็นครั้งที่สามในบริเวณตอนเหนือของอ่าวตังเกี๋ยในปีนี้
รัฐมนตรีฯฟิลิปปินส์กล่าวว่าเป็นเรื่องสำคัญที่อาเซียนจะต้องเป็นศูนย์กลางในการสร้างสันติภาพและเสถียรภาพ ตลอดจนเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลจีนใต้ พร้อมระบุว่า "เราได้หารือกันถึงการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิผลมากขึ้นในการทำงานร่วมกันกับพันธมิตรอาเซียน เพื่อให้แน่ใจว่าความปรารถนาของประชาชนอาเซียนทุกคนจะดำเนินต่อไปได้ผ่านความร่วมมือและการโต้ตอบที่เป็นรูปธรรม ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ"
แม้จะมีการอ้างสิทธิ์ทับซ้อนในหมู่เกาะ Spratly ในทะเลจีนใต้ ซึ่งเวียดนามและฟิลิปปินส์ต่างก็ครอบครองเกาะและแนวปะการังในบริเวณนี้ แต่ทั้งสองประเทศได้แสดงความปรารถนาที่จะทำงานร่วมกันและจัดการกับข้อพิพาทดังกล่าว ยามฝั่งของทั้งสองประเทศจึงได้จัดการซ้อมรบร่วมครั้งแรกในมะนิลาเมื่อต้นเดือนนี้ โดยจำลองการฝึกดับเพลิง พร้อมฝึกการค้นหาและช่วยเหลือ
By IMCT NEWS
อ้างอิงจาก: https://news.yahoo.com/news/philippines-vietnam-sign-defence-agreement-055950453.html