ขอบคุณภาพจาก : worldexportasia.com
27/3/2024
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้คำมั่นเร่งสร้างสะพานและท่าเรือที่เสียหายจากเหตุเรือสินค้าชนสะพานถล่มในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ เมื่อช่วงเช้าวันอังคารตามเวลาในสหรัฐฯ ระหว่างที่การค้นหาผู้สูญหายยังดำเนินต่อไป
ภาพจากวิดีโอแสดงให้เห็นสะพานฟรานซิส สกอตต์ คีย์ (Francis Scott Key Bridge) ถล่มลงไปในแม่น้ำพาแทพสโก (Patapsco River) หลังจากถูกเรือบรรทุกสินค้าติดธงสิงคโปร์ ต้าลี่ (Dali) แล่นชนเสารับน้ำหนักของสะพานเมื่อเวลาประมาณ 01:30 น. ของเช้าวันอังคาร
เจ้าหน้าที่ระบุว่า มีรถยนต์หลายคันอยู่บนสะพานขณะเกิดเหตุ นักประดาน้ำพยายามค้นหาผู้สูญหายที่คาดว่ามีจำนวน 8 คน ซึ่งเป็นทีมงานซ่อมบำรุงทางหลวงทั้งหมด ตกลงไปในแม่น้ำพาแทพสโก ท่ามกลางระดับอุณหภูมิต่ำในระดับ 9 องศาเซลเซียส ขณะที่ทีมกู้ภัยยังทำงานแข่งกับเวลาในการช่วยเหลือคนงานอีก 6 รายที่ยังสูญหาย
ทางประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอังคารว่า ตนจะขอให้คองเกรสจัดหางบเพื่อสร้างสะพานแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ และมีกำหนดการเยือนพื้นที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวว่าไม่มีเหตุผลที่จะตั้งข้อสงสัยเรื่องการก่อการร้ายในเหตุการณ์ครั้งนี้
ผู้ว่าการรัฐแมรีแลนด์ เวส มัวร์ ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อให้รัฐบาลกลางสามารถส่งทรัพยากรต่าง ๆ มาช่วยในการรับมือเหตุการณ์สะพานถล่มครั้งนี้แล้ว
นายกเทศมนตรีเมืองบัลติมอร์ แบรนดอน สกอตต์ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ "เป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน" ขณะที่ หัวหน้าตำรวจเมืองบัลติมอร์ ริชาร์ด วอร์ลีย์ ระบุว่า ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าเป็นการชนสะพานโดยตั้งใจ
บริษัท Synergy Marine Corp ผู้จัดการเรือต้าลี่ มีแถลงการณ์ว่า กัปตันเรือและลูกเรือทุกคนปลอดภัยดีและไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
สะพานฟรานซิส สกอตต์ คีย์ แห่งนี้มีอายุ 47 ปี มีความยาว 2.5 กม. เชื่อมระหว่างทางหลวงหมายเลข 695 กับตัวเมืองบัลติมอร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าเรือขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ โดยสะพานนี้ได้ชื่อมาจากผู้ประพันธ์เพลง “The Star Spangled Banner” ที่กลายเป็นเพลงชาติของสหรัฐฯ ในเวลาต่อมา
หลังจากที่เรือบรรทุกสินค้าชนสะพานถล่มใกล้ท่าเรือเมืองบัลติมอร์ของสหรัฐฯ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ท่าเรือดังกล่าวต้องปิดลง จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงจากทางการรัฐแมรีเเลนด์ผู้มีอำนาจในพื้นที่ แม้ท่าเรือบัลติมอร์ ที่ใช้รับส่งสินค้าจากตู้บรรทุก 265,000 ตู้ช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีที่เเล้ว จะมีขนาดเล็กกว่าท่าเรือในนิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์ และที่นอร์ฟอร์ค รัฐเวอร์จิเนีย เเต่สถานที่แห่งนี้ในรัฐเเมรีเเลนด์ มีความสำคัญพิเศษกับสินค้าของบางอุตสาหกรรม
รอยเตอร์รายงานว่า ท่าเรือบัลติมอร์มีการขนส่งสินค้ารถยนต์มากที่สุดในสหรัฐฯ เมื่อปีที่เเล้วตามข้อมูลขององค์กรบริหารท่าเรือรัฐแมรีเเลนด์
เมื่อปี 2023 มียานยนต์กว่า 750,000 คันที่ผ่านการขนส่งที่ท่าเรือแห่งนี้ตั้งแต่รถซูเปอร์คาร์ แลมโบกินี รถอัลตราลักซ์ชูรีย์ อย่าง เบนท์ลีย์ ไปจนถึงรถของโตโยต้าและนิสสัน สำหรับสินค้าเกษตร ท่าเรือบัลติมอร์รับการนำเข้าในปริมาณมากที่สุดของสหรัฐฯ เมื่อปีที่เเล้วสินค้าเกษตรปริมาณ 3 ล้านตันอาศัยท่าเรือแห่งนี้เป็นที่รับของ ซึ่งรวมถึงน้ำตาล 1.2 ล้านตัน ตลอดจนเกลือ แร่ยิปซัม ปุ๋ย และผลิตภัณฑ์จากป่า ตามข้อมูลของนักวิเคราะห์ อิชาน ภาณุ แห่งบริษัทสินค้าเกษตร Kpler
บริษัทน้ำตาลสหรัฐฯ ASR Group ที่มีกิจการใกล้ใจกลางเมืองบัลติมอร์กล่าวว่า ไม่คิดว่าเหตุการณ์เรือชนสะพานและการปิดท่าเรือจะกระทบธุรกิจในระยะสั้น ท่าเรือบัลติมอร์ยังมีความสำคัญต่อการส่งออกถ่านหินจากสหรัฐฯ ไปยังตลาดโลกด้วย
ในช่วง 9 เดือนเเรกของปีที่เเล้ว บัลติมอร์คือจุดนำถ่านหินส่งออกราว 20 ล้านตัน ถือว่ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของสหรัฐฯ รองจากท่าเรือนอร์ฟอร์ค รัฐเวอร์จิเนีย นอกจากนี้ สินค้าพลังงานอื่น ๆ ที่ใช้ท่าเรือบัลติมอร์เป็นจุดส่งออกอย่างมีนัยสำคัญ ยังมีก๊าซธรรมชาติเหลว หรือเเอลเอ็นจี อีกด้วย ที่นี่ มีศูนย์จอดรับส่งสินค้า Cove Point สำหรับผลิตภัณฑ์แอลเอ็นจี ซึ่งผู้รับผิดชอบบริหารจุดขนส่งคือบริษัท Berkshire Hathaway Energy
ทางบริษัทกล่าวว่า ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สะพานถล่ม และกำลังทำงานร่วมกับางการเพื่อให้แน่ใจว่าการทำงานของตนจะดำเนินไปได้อย่างปลอดภัย ส่วนความสูญเสียด้านชีวิตมนุษย์ รอยเตอร์ระบุว่า มีผู้สูญหาย 6 คนและเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเดินหน้าค้นหาผู้ที่อาจรอดชีวิตอยู่ แม้หลังเหตุการณ์ผ่านพ้นไปหลายชั่วโมง
ทั้งนี้ ในอดีต เคยเกิดเหตุสะพานขนาดใหญ่โดนเรือชนจนถล่ม 35 แห่งทั่วโลก ช่วงปี 1960 - 2015 เหตุการณ์เหล่านี้คร่าชีวิตเหยื่อไปทั้งสิ้น 342 คน ตามรายงานของเอพี ที่อ้างข้อมูลจากรายงานปี 2018 ของสมาคม World Association for Waterbourne Transport Infrastructure.
ในจำนวน 35 แห่ง มี 18 แห่งที่อยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึง การถล่มของสะพานอีดส์ (Eads) ปี 1998 ที่มีผู้บาดจ็บ 50 คนในเขตท่าเรือเซนต์หลุยส์ และ 5 ปีก่อนหน้านั้น สะพานบิ๊กบายู (Big Bayou) ใกล้เมืองโมบิลที่รัฐแอละบามาโดนเรือชนจากนั้นไม่กี่นาทีรถไฟที่มีผู้โดยสาร 220 คนเเล่นตรงเข้ามาและตกราง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 47 รายและบาดเจ็บ 103 คน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1980 ที่รัฐฟลอริดา สะพานซันไชน์ สกายเวย์ (Sunshine Skyway) ถล่ม ขณะที่ มียานพาหนะ 7 คันและรถประจำทางพร้อมผู้โดยสาร 26 คน เเล่นอยู่ ในเหตุการณ์นั้น พาหนะทั้งหมดร่วงลงน้ำในอ่าวเเทมปาจากความสูง 150 ฟุต ทำให้มีผู้เสียชีวิต 35 ราย
IMCT News
ที่มา: วีโอเอ https://www.voathai.com/a/baltimore-port-what-impact-will-bridge-collapse-have-on-shipping-/7543590.html