14/5/2024
นักวิเคราะห์ส่วนมากมองแผนการของการระดมทุนของรัฐบาลจีน1ล้านล้านหยวน (138พันล้านดอลล่าร์)ผ่านการออกพันธบัตรกระทรวงการคลังพิเศษระยะยาวในเดือนพฤษภาคมนี้ว่า เป็นความพยายามของรัฐบาลจีนที่จะหาเงินมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง
แน่นอนทีเดียวที่การระดมทุนในครั้งนี้มุ่งที่จะนำเงินใช้จ่ายในภาคเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง และการพัฒนาของจีน
แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปจะเห็นว่าจีนออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อสร้างทางเลือกใหม่ให้กับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกของกลุ่มประเทศBRICS ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงออกจากการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
จีนมีการเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอย่างต่อเนื่อง โดย ณ เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จีนถือครองเพียง 775 พันล้านดอลล่าร์ เทียบกับ816,300ล้านเมื่อสิ้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ในปี2013 จีนถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐสูงสุดที่1.3ล้านล้าน
เมื่อขายพันธบัตรสหรัฐออกไปแล้ว จีนเอาดอลล่าร์ไปซื้อทองคำ หรือลงทุนในทรัพย์สินอื่นที่จับต้องได้แทน เนื่องจากการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐกลายเป็นความเสี่ยงหลังจากที่สหรัฐยึดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียไปเพื่อตอบโต้การที่รัสเซียโจมตียูเครน
ความจริงธนาคารกลางจีนครองแชมป์ในการซื้อทองคำมากที่สุดในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากสงครามยูเครน จีนและธนาคารกลางของประเทศต่างๆมีการขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐออกไป และหันมาตะลุยซื้อทองคำเข้ามาเก็บในเงินทุนสำรองระหว่างประเทศแทน ราคาทองคำที่ขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่ผ่านมามีสาเหตุหลักมาจากการซื้อทองของธนาคารกลางโลก
นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐมีการก่อหนี้ในระดับที่สูงจนทุกคนตระหนักดีว่าสหรัฐไม่มีความตั้งใจที่จะใช้หนี้ที่ขณะนี้เพิ่มขึ้น1ล้านล้านเหรียญในทุกๆ100วัน แต่สหรัฐจะพิมพ์เงินดอลล่าร์ออกมาเพิ่มเพื่อจ่ายหนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้ดอลล่าร์อ่อนค่าลงไป ล่าสุดหนี้รัฐบาลสหรัฐใกล้จะแตะระดับ35ล้านล้านเหรียญแล้ว ภาระหนี้ที่สูงทำให้กระทรวงการคลังของสหรัฐจะมีปัญหามากขึ้นเรื่อยๆในการขายพันธบัตรเพื่อไฟแนนซ์หนี้เก่า และหนี้ใหม่ที่ก่อผ่านการขาดดุลงบประมาณ เพราะว่านักลงทุนเริ่มลดความมั่นใจในความน่าเชื่อถือของเครดิตของรัฐบาลสหรัฐ
ย้อนกลับมาที่พันธบัตรรัฐบาลจีนชุดใหญ่ที่กำลังจะออกในเดือนนี้ สามารถมองได้ว่าจะเป็นทางเลือกให้ธนาคารกลางของประเทศต่างๆในการถือครองแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เพราะว่าฐานะการเงินการคลังของรัฐบาลจีนมั่นคงกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้ ปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจจีนก็แข็งแกร่งกว่าเศรษฐกิจสหรัฐอย่างเทียบไม่ได้
เมื่อธนาคารกลางซื้อพันธบัตรรัฐบาลจีนที่ให้ผลตอบแทนในรูปอัตราดอกเบี้ย ก็เท่ากับว่าได้ถือครองเงินหยวนเป็นรีเสิร์ฟแทนดอลล่าร์
ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกของBRICS สามารถเปลี่ยนจากการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมาเป็นทองคำ และพันธบัตรรัฐบาลจีนแทน เพราะว่ามีความมั่นคงมากกว่า ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากทรัพย์สินดอลล่าร์ที่กำลังเผชิญกับเงินเฟ้อที่จะรุนแรงขึ้น การก่อหนี้ของรัฐบาลสหรัฐที่จะยังคงเพิ่มขึ้นมหาศาล และการออกพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่จะท่วมตลาดจนต่อไปจะหาคนซื้อยาก ไม่นับความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์
BRICSมีนโยบายที่จะค้าขายกันเองโดยใช้เงินสกุลประจำชาติ และไม่ต้องพึ่งพาดอลล่าร์ ทำให้ประเทศสมาชิกไม่จำเป็นต้องสำรองดอลล่าร์มากเหมือนอย่างในอดีต แต่จะหันมาทำสว็อปทางการเงิน หรือถือครองทรัพย์สินของประเทศคู่ค้าแทนในการเสริมสร้างสภาพคล่องทางการเงิน
พันธบัตรรัฐบาลจีนจึงเป็นทางเลือกสำหรับประเทศBRICSในการบริหารจัดการทุนสำรองระหว่างประเทศของตนให้มีความมั่นคง กระจายความเสี่ยงออกจากดอลล่าร์ เพิ่มสภาพคล่องของหยวน ซึ่งจะช่วยในการทำมาค้าขายกับจีนต่อไป เพราะว่าจีนกำลังผงาดเป็นมหาอำนาจเบอร์หนึ่งของโลกทางเศรษฐกิจและการเงิน
ในขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐมีความยากลำบากในการขายพันธบัตรอายุยาว เพราะว่านักลงทุนไม่มั่นใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตทำให้มีการลงทุนมากกว่าในตราสารหนี้ระยะสั้น ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นสูงกว่าผลตอบแทนระยะยาว ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ทางการเงินที่ผิดปกติ
แต่พันธบัตรกระทรวงการคลังของจีนที่กำลังจะออกในเดือนพฤษภาคมนี้มีอายุระยะยาวทั้งนั้นคือ 20ปี 30ปี และ 50ปี ซึ่งผู้ซื้อจะต้องความมั่นใจในเสถียรภาพทางการเงินการคลังของรัฐบาลจีนในระยะยาว ซึ่งคาดกันว่าดีมานด์น่าที่จะท่วมท้น
By Thanong Khanthong, Editor
IMCT News