ผู้นำเยอรมนี โอลาฟ ชอลซ์อาจจะตกงาน

11-1-2025

    การเลือกตั้งเยอรมนีครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ และหากผลสำรวจล่าสุดมีข้อบ่งชี้ใดๆ นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์อาจจะตกงาน

พรรคโซเชียลเดโมแครต (SPD) เป็นส่วนหนึ่งของกระแสนิยมระดับโลกของพรรคการเมืองที่ผลักดันประเทศของตนไปทางซ้าย ( เสรีนิยม) จนประชาชนลงคะแนนเสียงไปทางขวา (อนุรักษ์นิยม)

หนังสือพิมพ์ Bild เชื่อว่าความชื่นชอบของพรรค SPD ลดลงหนึ่งจุดเป็น 15.5% นับตั้งแต่เดือนธันวาคม  สหภาพคริสเตียนประชาธิปไตย (CDU) และพรรคในเครือคือสหภาพสังคมคริสเตียน (CDU) มีคะแนนนำในการสำรวจที่ 31%

พรรคทางเลือกสำหรับเยอรมนี (AfD) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นหนึ่งเปอร์เซ็นต์เป็น 21.5% พรรคเดอะกรีนส์เห็นคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้น 1.5 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 13.5% เท่านั้น ซึ่งถือเป็นระดับการสนับสนุนสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023

ส่วนพรรคอื่นๆ ทั้งหมดอยู่ต่ำกว่าระดับ 5% เนื่องจากประชาชนไม่เอาฝ่ายซ้ายอีกต่อไป

    นโยบายการเปิดพรมแดน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ วาระพิลึกพิลั่น และสงครามที่ไม่มีที่สิ้นสุดได้ผลักดันให้ประชาชนทั่วโลกมาถึงจุดแตกหัก นโยบายก้าวหน้าล้มเหลว เราเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ลือลั่นในอิตาลีเมื่อ Giorgia Meloni และพรรค Brothers of Italy เข้าดำรงตำแหน่งในปี 2022

     Marine Le Pen แห่งฝรั่งเศสได้รับที่นั่งส่วนใหญ่ใน National Rally เนเธอร์แลนด์เห็นพรรคแห่งเสรีภาพของ Geert Wilders ชนะที่นั่งส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎร กระแสน้ำกำลังเคลื่อนตัวทั่วยุโรป

    โดยพื้นฐานแล้วรัฐบาลเยอรมันล่มสลายภายใต้การดูแลของชอลซ์ เขาทิ้งช่องโหว่ขนาดใหญ่ไว้ในงบประมาณและสละอำนาจอธิปไตยทางเศรษฐกิจให้กับบรัสเซลส์ ฝ่ายซ้ายยังสูญเสียการคุ้มครองจากอเมริกาในขณะที่ไบเดนกำลังจะออกจากตำแหน่ง ฝ่ายซ้ายสูญเสียในระดับสากล เนื่องจากประชาชนไม่สามารถทนต่อความล้มเหลวของวาระลัทธิมาร์กซิสต์ได้อีกต่อไป

     เรามีการเปลี่ยนแปลงทิศทางในปี 2024 และคาดว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรงในปี 2026 ถึงปี 2028 ลัทธิมาร์กซิสม์ควรจะสิ้นสุดในยุโรปภายในปี 2037 แต่เส้นทางนั้นยาวไกลกว่าจะไปถึงจุดนั้น ในระยะสั้น รัฐบาลที่เข้ามาทั้งหมดจะถูกบังคับให้ยกเลิกข้อผิดพลาดของระบอบการปกครองก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งยอมรับว่าความเสียหายบางส่วนไม่สามารถแก้ไขได้

ที่มา armstrongeconomics.com