เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด

เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด
23-3-2025
สหรัฐฯร่วมมือกับยุโรปในการก่อสงครามตัวแทนยูเครน เพื่อที่จะล้มรัสเซีย โดยหวังว่าจะเข้าไปมีอิทธิพลเหนือดินแดนยูเรเซียที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของโลก รวมท้ังครอบครองทรัพยากรธรรมชาติของรัสเซียที่มีมูลค่ารวม$75ล้านล้าน แต่มันไม่เป็นไปตามแผน เพราะว่าสงครามยูเครนที่ดำเนินมากว่าสามปีพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า รัสเซียประสบความสำเร็จในการทำสงครามที่ยืดเยื้อ เนื่องจากมีเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมทางทหารที่แข็งแกร่งกว่านาโต้ยุโรป ยิ่งสงครามลากยาวขึ้นเท่าใด ยูเครนยิ่งจะเสียดินแดนเพิ่มขึ้นเท่านั้น และยุโรปยิ่งจะประสบกับหายนะชนิดที่กู่ไม่กลับในขณะที่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และภาระหนี้ของยุโรปมีความเปราะบางอยู่แล้ว
การเปลี่ยนนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ต่อสงครามยูเครน และนาโต้ยุโรปจึงเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในประวัติศาสตร์โลกสมัยใหม่ เพราะว่าทรัมป์หันไปพยายามคืนดีกับรัสเซีย ซึ่งยุโรปมองว่าเป็นศัตรูที่จะต้องทำลายให้ได้มาตลอด ทรัมป์เล็งเห็นแล้วว่า ไม่ว่าจะช่วยยูเครนมากเท่าใด ก็จะไม่มีทางเปลี่ยนรูปการณ์ของสงครามที่รัสเซียเป็นฝ่ายได้เปรียบ หรือจะมีชัยชนะในที่สุด จึงหันมาบีบให้ยูเครนหาทางยุติสงครามกับรัสเซีย ยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี โปแลนด์ถึงกลับตั้งตัวไม่ติด เพราะคิดว่าสหรัฐจะร่วมหัวจมท้ายในการให้การสนับสนุนยูเครนทำสงครามกับรัสเซียไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น คือรัสเซียเพลี้ยงพล้ำพ่ายแพ้ไปในที่สุดตามความฝันลมๆแล้งๆของยุโรป
เมื่อทรัมป์พลิ้วตัวออกจากสงครามยูเครน ทิ้งภาระให้กับยุโรปในการหนุนเคียฟให้ทำสงครามกับยูเครนต่อไป ยุโรปมีแต่จะตกที่นั่งลำบากจนสหภาพยุโรป นาโต้ และเงินยูโรอาจจะล่มสลายได้ในอีกไม่ช้าไม่นาน มันเป็นความจริงที่ว่านาโต้คือสหรัฐ ถ้าหากปราศจากสหรัฐที่มีทั้งกำลังเงิน และแสนยานุภาพแล้ว นาโต้จะไม่มีความหมาย มิอาจจะต้านทานรัสเซียได้ในกรณีที่เกิดสงครามขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ รัสเซียจะไม่มีวันแพ้สงคราม เพราะว่าปูตินสั่งเตรียมความพร้อมของอาวุธนิวเคลียร์ และอาวุธมหาประลัยอื่นๆ ในกรณีที่รัสเซียเพลี้ยงพล้ำในการส่งคราม จะมีการใช้อาวุธเหล่านี้โดยที่ไม่มีประเทศใดสามารถต้านทานได้ ทรัมป์ตระหนักถึงข้อนี้ดีจึงยอมให้มีการเจรจายุติสงครามยูเครน จะได้มีข้ออ้างกับคนอเมริกันว่า ความผิดพลาดของสงครามยูเครนท้ังหมดเกิดขึ้นจากโจ ไบเดน เขามาเพื่อแก้ปัญหาเพื่อป้องกันไม่ให้สงครามโลกคร้ังที่สามเกิดขึ้น
ยุโรปต่างหากเป็นฝ่ายที่ต้องการก่อสงครามโลกคร้ังที่สามกับรัสเซีย เพราะว่ามีหนี้สินล้นพ้น และมีเศรษฐกิจที่อ่อนแอ จึงต้องการสงครามเพื่อกลับเกลือนปัญหาหนี้สินที่ต่อไปจะไม่สามารถดูแลสว้สดิการสังคมได้เหมือนเดิม ถ้าหากฐานะการคลังของรัฐบาลยุโรปล่มสลาย ไม่มีเงินจ่ายให้ประชาชน จะเกิดจลาจลไปทั่ว ประชาชนจะออกมาเต็มท้องถนนเพื่อฉีกเนื้อผู้นำหรือนักการเมืองเป็นชิ้นๆ การที่ผู้นำยุโรปในเวลานี้เตือนประชาชนของตัวเองว่า ถ้าไม่เตรียมการรบกับรัสเซีย ต่อไปรัสเซียจะยึดยุโรปหลังเสร็จสิ้นสงครามยูเครนแล้ว ท้ังๆที่ปูตินออกมาชี้แจงหลายคร้ังแล้วว่า รัสเซียไม่ต้องการดินแดนยุดรปเพิ่มเติม เพราะแค่ดินแดนที่มีอยู่ก็มากมายกว่าท้ังยุโรป และไม่สามารถดูแลตลอดได้ทั่วถึงอยู่แล้ว ปัญหาที่แท้จริงของยุโรปคือผู้ปกครองที่ผ่านมาไม่ได้สนใจในการบริหารบ้านเมือง หรือเศรษฐกิจเพื่อประโยชน์ของประชาชน มีแต่เอื้อประโยชน์ของนายทุน และพวกนายธนาคาร
ในขณะที่การเจรจายุติสงครามยูเครนกำลังดำเนินไป ปรากฎว่ายุโรปถูกกันไม่ให้เข้าไปมีส่วนร่วม ทรัมป์ต่อสายคุยกับปูตินโดยตรง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและของรัสเซียมีการเจรจากัน และเจ้าหน้าที่ของยูเครนถูกดึงเข้ามาทีหลัง ถ้าหากต้องหยุดยิงเป็นเวลา30วันในเบื้องต้นระหว่างฝ่ายรัสเซียกบัยูเครน จะต้องมีเงื่อนไขต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้อง และเงื่อนไขส่วนใหญ่นั้นรัสเซียจะเป็นผู้กำหนด เนื่องจากเป็นฝ่ายได้เปรียบในสมรภูมิ สงครามยูเครนเป็นเพียงพื้นผิวของปัญหา ความมั่นคงระหว่างรัสเซียกับยุโรป นาโต้และสหรัฐเป็นเรื่องที่จะต้องมีการตกลงกันในกรอบสันติภาพที่ถาวร ซึ่งเป็นสิ่งที่ปูตินเรียกร้อง
ในขณะที่การเจรจาหยุดยิง30วันยังคงดำเนินไป รัสเซียเดินหน้าขยายการควบคุมในดินแดนยูเครน โดยอาจจัดตั้งเขตความมั่นคงเป็นเป้าหมายสูงสุด รูปแบบที่แน่นอนของเขตความมั่นคงนี้ยังไม่ชัดเจน แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ ดินแดนของลูฮันสก์ โดเน็ตก์ ซาโปริเซีย เคอซอน และไครเมียที่รัสเซียยึดไปแล้ว ซึ่งเทียบเท่า20%ของดินแดนยูเครนท้ังหมดจะไม่เป็นเรื่องที่ต้องมาต่อรองอะไรกัน รัสเซียอาจจะผนวกดินแดนเพิ่มขึ้นอีกก็ได้
ส่วนทรัมป์พยายามทำทุกอย่างเพื่อทวงเงินที่ช่วยเหลือยูเครนคืน ผ่านการเข้าถึงแร่ธาตุที่หายากและทรัพยากรอื่นๆของยูเครนเพื่อเป็นการชดเชย อังกฤษฉกฉวยโอกาสของช่วงเปลี่ยนถ่ายตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ด้วยการส่งเคียร์ สตาร์มเมอร์ไปกรุงเคียฟเพื่อเซ็นขอตกลงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างอังกฤษและยูเครนที่มีอายุ100ปีก่อนทรัมป์รับตำแหน่งเพียง4วัน ในข้อตกลงนี้ อังกฤษสามารถเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติของยูเครน รวมท้ังโครงสร้างพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้า สนามบิน ท่าเรือฯลฯ ซึ่งจะทำให้อังกฤษครอบครองยูเครนได้อย่างสมบูรณ์หลังจากเสร็จศึกกับรัสเซีย
ด้วยเหตุที่โวโลดิเมียร์ เซเลนสกีเซ็นข้อตกลงขายชาติให้กับอังกฤษไปเรียบร้อยแล้ว จึงแสร้งเล่นละครที่ทำเนียบขาวกับทรัมป์โดยทำท่าว่าจะเซ็นข้อตกลงแร่ธาตุหายากกับทรัมป์ แต่กลับเบี้ยวไปในที่สุด ไม่งั้นจะโดนอังกฤษเอาตายแน่
ส่วนฝรั่งเศส โปแลนด์ โรมาเนีย ฮังการี และประเทศยุโรปอื่นๆก็หวังที่จะกู้เงินบางส่วนคืนจากการให้ความช่วยเหลือยูเครนในช่วงสงครามที่ผ่านมา ทำให้ในท้ายที่สุดชาวยูเครนที่ยังไม่ตายจากสงครามแทบที่จะไม่เหลือสมบัติอะไรให้ตัวเองกับลูกหลาน เพราะว่าโดนเซเลนกีละเลงจนฉิบหายไปหมดแล้ว ดินแดนที่เหลือ รวมท้ังทรัพยากรถูกต่างชาติรุมทึ้ง และแบ่งแยก
อังกฤษเป็นหัวเรือใหญ่ในการรวบรวมประเทศยุโรปให้เดินหน้าทำสงครามกับรัสเซีย แม้ว่าสหรัฐจะถอยก็ตาม แม้ว่าจะออกจากสหภาพยุโรป แต่บารมีของอังกฤษยังมีมาก สงครามรัสเซียจะเป็นสงครามคร้ังสุดท้ายของอังกฤษ หากพ่ายแพ้ จักรวรรดิอังกฤษจะล่มสลาย อังกฤษจึงเดิมพันความขัดแย้งในยูเครนอย่างเต็มตัว โดยกำลังหารือกับฝรั่งเศส เยอรมนีกับกลุ่มประเทศนอร์ดิกเพื่อสร้างกองทัพยุโรป ในกรณีที่สหรัฐถอนตัวออกจากนาโต้ แม้ว่าจะขาดแคลนเงินทุน และเทคโนโลยีที่ด้อยกว่าทางทหาร อังกฤษและยุโรปจะพยายามสร้างกองทัพอย่างเต็มที่ โดยไม่สนใจในการสร้างเศรษฐกิจ หรือปรับปรุงระบบการเงินที่ล้าสมัยแต่ประการใด
เมื่อยุโรปอ่อนแอลง ท้ังสหรัฐและรัสเซียได้ประโยชน์ จะเห็นได้ว่าทองคำจากอังกฤษ และสวิตเซอร์แลนด์ได้ถูกดยกเข้านิวยอร์คหลายพันตันในช่วงที่ผ่านมา หรือ2,000ตันเฉพาะเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียว เงินออมและเงินลงทุนของยุโรปไหลออกนอกทวีปปีละ500,000ล้านยูโรเพื่อแสวงหาผลตอบแทนที่ดีกว่า ปรากฎการณ์ทองคำ และเงินทุนที่เคลื่อนย้ายออกจากยุโรปสะท้อนความกลัวว่าจะเกิดสงครามใหญ่ เมื่อเกิดสงคราม ยุโรปจะนำเอามาตรการควบคุมเงินทุนเคลื่อนย้ายมาใช้ (capital controls) ทรัพย์สินต่างๆของยุโรปจะถูกแช่แข็ง หรือถูกรัฐบาลนำเอาไปใช้เพื่อการสงคราม ทำให้คนยุโรปที่คาดการณ์ผิดอาจจะหมดตัวได้
สหรัฐได้ประโยชน์เต็มตัวจากทองคำจากยุโรปที่ไหลเข้าสหรัฐ รวมท้ังเงินลงทุนของบริษัทต่างๆของยุโรปที่ย้ายฐานการผลิต รวมท้ังเม็ดเงินลงทุนอื่นๆ การเพิ่มค่าใช้จ่ายทางทหารของยุโรปจะเข้าทางทรัมป์เหมือนกัน เพราะว่ายุโรปประกาศแล้วว่าจะระดมทุน800,000ล้านยูโร เพื่อสร้างกองทัพ และปรับปรุงอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ เพื่อเตรียมการรับมือภัยจากรัสเซีย เยอรมนีก็กำลังเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อสามารถใช้จ่างบประมาณทางทหารได้เพิ่มผ่านการกู้ยืมเงิน อย่างไรเสียยุโรปต้องหันกลับมาซื้ออาวุธจากบริหารผลิตอาวุธของสหรัฐที่จะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ถ้าหากระดมเงินมาสร้างกองทัพและซื้ออาวุธได้ไม่พอ ยุโรปอาจจะเอาฐานเงินฝาก10ล้านล้านในระบบธนาคารที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรมาใช้ก่อน ทำให้เงินฝากของชาวยุโรปไม่ปลอดภัย
ยิ่งถ้าหากทรัมป์ประกาศในวันที่ 2เมษาว่า จะเก็บภาษีสินค้านำเข้า25%จากยุโรป เพื่อกดดันให้ยุโรปต้องซื้อสินค้าจากสหรัฐเพิ่มเพื่อลดการขาดดุลการค้า ยุโรปยิ่งจะประสบกับหายนะเร็วยิ่งขึ้น เงินออมหรือเงินลงทุนจะไหลออกจากยุโรปเร็วขึ้น ทำให้อนาคตของยุโรปมีแต่ความมืดมน
ส่วนรัสเซียจะได้ประโยชน์เหมือนกันจากความอ่อนแอของยุโรปที่อาจจะล่มสลาย และจะนำไปสู่การแยกตัวของกลุ่มประเทศในยุโรปกลาง หรือยุโรปตะวันออก จะมีหลายประเทศกลับมารื้อฟื้นสัมพันธ์กับรัสเซีย เพื่อที่จะได้ประโยชน์จากพลังงาน และสินค้าโภคภัณฑ์ราคาถูก รวมท้ังได้หลักประกันความมั่นคง แต่ท้ังนี้ทั้งนั้นจะต้องมีการเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศ และความมั่นคงอย่างเต็มตัว เมื่อยุโรปอ่อนแอลง จะถูกบีบให้เจรจาสันติภาพกับรัสเซีย หากยังดื้อดึงที่จะเดินหน้าก่อความขัดแย้งกับรัสเซีย โดยหวังว่าจะสร้างสถานการณ์บางอย่างเพื่อดึงสหรัฐเข้าสู่สงครามกับรัสเซียก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ในเวลานี้ยุโรปกำลังเข้าสู่มุมอับจริงๆ
By Thanong Khanthong
IMCT News
22/3/2025