จับกระแสราคาทองคำจะพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องหรือไม่
3/10/2024
ขอบคุณภาพจาก moneyandbanking.co.th
ปัจจุบัน ตลาดทองคำโลกกำลังเผชิญกับการฟื้นตัวอย่างน่าทึ่ง โดยราคาพุ่งขึ้นสู่ระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน และนักลงทุนต่างก็แย่งกันซื้อโลหะมีค่าชนิดนี้ โดยศูนย์กลางของการซื้อทองคำครั้งนี้คืออินเดียและจีน ซึ่งทองคำมีความสำคัญทางวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใคร และสภาพเศรษฐกิจที่เอื้อต่อการซื้อทองคำมากยิ่งขึ้น
ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำลายสถิติและท้าทายความคาดหมาย ในอินเดีย ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 19% ในปีนี้ (2024) เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (2023) โดยแตะระดับประมาณ 812 ดอลลาร์สหรัฐฯ (76,000 รูปีอินเดีย) ต่อ 10 กรัม ในตลาดต่างประเทศ ทองคำแตะระดับ 2,665 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ซึ่งสร้างผลงานประจำปีที่ดีที่สุดในรอบ 14 ปี
การพุ่งขึ้นของราคานี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ทองคำแท่งเท่านั้น แต่กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำ (ETF) ยังมีการไหลเข้าจำนวนมาก โดยสินทรัพย์ภายใต้การจัดการทั่วโลกแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 257 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สิ่งนี้เน้นย้ำถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนที่มีต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่วุ่นวาย ซึ่งมีปัจจัยหลายประการมีส่วนสนับสนุนการตื่นทองในยุคปัจจุบัน คือ
1.ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์: ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงดำเนินต่อไปและความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางทำให้ความไม่แน่นอนทั่วโลกทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ผู้ลงทุนหันไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำ
2.การปรับลดอัตราดอกเบี้ย: การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างก้าวร้าวของธนาคารกลางสหรัฐและความคาดหวังในการผ่อนคลายเพิ่มเติมทำให้ทองคำน่าดึงดูดใจมากขึ้นโดยลดต้นทุนโอกาสของการถือครอง
3.ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง: ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงทำให้ทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ซึ่งกระตุ้นความต้องการให้เพิ่มขึ้น และ
4.ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ: ความกังวลที่ยังคงมีอยู่เกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกยังทำให้ทองคำมีความน่าดึงดูดใจมากขึ้นในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงต่อความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน จีนก็มีบทบาทสำคัญในตลาดทองคำโลก ในฐานะผู้บริโภคและผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในโลก การกระทำของจีนส่งผลกระทบอย่างมากต่อราคาทองคำ การเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ของประเทศในการใช้ทองคำเพื่อป้องกันความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและเพื่อถ่วงดุลกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้อิทธิพลของประเทศต่อตลาดเพิ่มมากขึ้น นักลงทุนชาวจีน รวมถึงธนาคารประชาชนจีน ได้สะสมทองคำสำรองไว้ ส่งผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้น
ส่วนที่อินเดีย ทองคำมีความสำคัญทางวัฒนธรรมและศาสนาอย่างลึกซึ้ง ถือเป็นโลหะมงคลและเป็นส่วนสำคัญของงานแต่งงาน เทศกาล และงานเฉลิมฉลองอื่นๆ นอกจากนี้ ทองคำยังถือเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่การเข้าถึงสถาบันการเงินอย่างเป็นทางการอาจมีจำกัด อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำที่สูงเป็นความท้าทายสำหรับผู้บริโภคชาวอินเดีย ซึ่งอาจทำให้ความต้องการลดลง แต่เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองและงานแต่งงานที่กำลังจะมาถึงอาจช่วยพยุงราคาทองคำในระยะสั้นได้บ้าง
สำหรับแนวโน้มของทองคำยังคงเป็นไปในเชิงบวก โดยมีปัจจัยหลายประการที่น่าจะรักษาแนวโน้มขาขึ้นของราคาเอาไว้ได้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงดำเนินอยู่ แนวโน้มของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ล้วนเป็นปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองคำ นอกจากนี้ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากจีนและตลาดเกิดใหม่อื่นๆ น่าจะช่วยผลักดันราคาให้เพิ่มขึ้นได้อีก
ขณะที่นักลงทุนควรคำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น อย่างการปรับปรุงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกอย่างกะทันหันหรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่เข้มงวดของธนาคารกลางอาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรักษาพอร์ตการลงทุนที่สมดุลและหลากหลาย และคอยติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของตลาด
การตื่นทองในปัจจุบันเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงเสน่ห์ที่ยั่งยืนของโลหะมีค่าชนิดนี้ การผสมผสานที่ไม่เหมือนใครระหว่างความปลอดภัย สภาพคล่อง และความสำคัญทางวัฒนธรรมของทองคำทำให้เป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน แม้ว่าราคาที่สูงจะสร้างความท้าทายบางประการ แต่แนวโน้มในระยะยาวของทองคำยังคงสดใส ในขณะที่โลกกำลังเดินหน้าไปในภูมิประเทศที่ซับซ้อนและไม่แน่นอน บทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและแหล่งเก็บมูลค่ามีแนวโน้มที่จะมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
IMCT News
ที่มา https://oilprice.com/Metals/Gold/The-Future-of-Gold-Will-the-Price-Surge-Continue.html