เตือนเบอร์ลินเตรียมพร้อมรับมือ“วิกฤติครั้งใหญ่”
36 0C
Thailand
Thailand
รมว.สาธารณสุขเยอรมันออกโรงเตือนรัฐบาล
เบอร์ลินต้องเตรียมพร้อมรับมือ“วิกฤติครั้งใหญ่”
04/03/2024
เยอรมันส่งสัญญาณเตรียมพร้อมรับมือสงคราม หลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแห่งเยอรมันออกมาระบุ รัฐบาลควรยกเครื่องระบบสุขภาพของประเทศ เพื่อเตรียมการรองรับภัยขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของรัฐบาลกลางอย่างนายคาร์ล เลาเทอร์บัคได้กล่าวไว้ว่าประเทศเยอรมนีต้องปรับปรุงระบบการรักษาพยาบาลเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์วิกฤติได้อย่างรวดเร็ว เช่น โรคระบาดระลอกใหม่ หรือความขัดแย้งทางการทหาร โดยกฎหมายเพื่อการปฏิรูปที่คาดว่าจะนำเสนอในฤดูร้อนปีนี้นั้นจะเป็น “จุดเปลี่ยนสำหรับระบบการรักษาพยาบาล” ซึ่งนักการเมืองพรรคสังคมประชาธิปไตย (SPD) กล่าวไว้กับสำนักพิมพ์ Neue Osnabrücker Zeitung (NOZ) ในบทสัมภาษณ์ที่ตีพิมพ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
แม้ว่าที่ผ่านมา “แนวร่วมรัฐบาลผสมไฟจราจร” ได้มีการผลักดันให้มีการปฏิรูประบบสุขภาพมาแล้ว หลังการแพร่ระบาดของโรคระบาดโควิด-19 แต่รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ความท้าทายนั้นมียากมากยิ่งขึ้นเนื่องด้วยความขัดแย้งของประเทศยูเครน
โดยนายเลาเทอร์บัคได้อธิบายว่า “ในกรณีเกิดวิกฤติครั้งนี้ แพทย์ทุกราย โรงพยาบาลทุกแห่ง และหน่วยงานด้านสุขภาพทุกด้านต้องรู้ว่าต้องทำอย่างไร เราต้องการความรับผิดชอบที่ชัดเจน เช่น แผนการกระจายผู้บาดเจ็บจำนวนมากตามคลินิกในประเทศเยอรมนี”
รัฐมนตรีท่านนี้ยังได้กล่าวว่า โรงพยาบาลต่าง ๆ จะต้องดำเนินการฝึกซ้อมเพื่อการรับมือต่อภัยพิบัติ แต่ไม่ได้หมายความว่า การฝึกซ้อม หรือการเตรียมความพร้อมครั้งนี้ เป็นารดำเนินการเพื่อจะรองรับการก่อวินาศกรรมขนาดใหญ่ เพราะการอยู่เฉยๆ หรือ การไม่ทำอะไรเลยนั้นไม่ใช่อำนาจทางเลือก
“คงเป็นเรื่องที่ไร้เหตุผลถ้าบอกว่า เราไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับความขัดแย้งทางทหาร เพราะหากเตรียมพร้อมแล้วความขัดแย้งดังกล่าวนั้นจะไม่เกิดขึ้น ก็จะเป็นเรื่องที่เตรียมพร้อมโยเปล่าประโยชน์ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องมีกองกำลังป้องกันสหพันธ์ หรือ บุนเดิสแวร์ก็ได้”
ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมของเยอรมนีอย่างนายบอริส พิสโตเรียส ได้ระบุเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วว่าประเทศแห่งนี้จะต้องมี "ความสามารถในด้านการทำสงคราม" และยืนยันอีกครั้งเมื่อเดือนมกราคมว่าทุกฝ่ายทั้งทางเบอร์ลินและ NATO ควรติดอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับทางฝั่งตนเองให้แข็งแกร่งมากขึ้นเพื่อให้สามารถ "รบกับสงครามที่บีบบังคับเราให้เข้าร่วม" ได้
นอกจากนั้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา นายพลคาร์สเทน บรอยเออร์แห่งบุนเดสเวร์ ก็มีการเรียกร้องให้มี “การเปลี่ยนแปลงความคิด” ในสังคมของชาวเยอรมัน โดยยืนยันว่าประเทศจำเป็นต้องสร้าง “การป้องปราม” ที่น่าเชื่อถือ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำสงครามที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศรัสเซียภายในห้าปี
อย่างไรก็ตามท่าทีของฝ่ายเยอรมันล่าสุดนั้น สวนทางกับความเห็นนายมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินที่เคยกล่าวไว้เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปกำลัง "สร้างศัตรูภายนอก" เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาภายในประเทศ โดยดึงรัสเซียขึ้นมาเป็นข้ออ้าง และพยายามทำให้เห็นว่า ประเทศรัสเซียอาจกำลังวางแผนโจมตีประเทศเยอรมนีหรือรัฐอื่น ๆ ของฝ่าย NATO อยู่
เช่นเดียวกับรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ที่ระบุว่า “ไม่มีใครอยากให้เกิดสงครามใหญ่ครั้งนี้” โดยเฉพาะเมืองมอสโก
ขณะที่ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ก็ปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าวเช่นกัน โดยยืนยันว่าเป็น “เรื่องไร้สาระโดยสิ้นเชิง” และย้ำว่า มอสโก“ไม่มีผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ... หรือการทหาร” ที่จะเป็นสาเหตุของการเริ่มต้นความขัดแย้งกับทางฝ่าย NATO
อ้างอิง RT.COM
