ขอบคุณภาพจาก politico.com
2/9/2024
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (1 ก.ย.) ว่าคำพูดล่าสุดของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียเกี่ยวกับความคาดเดาได้ของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ยังใช้ได้กับกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีที่ผันตัวมาเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาด้วย
เมื่อมีคำถามว่า รัสเซียต้องการเห็นโจ ไบเดนหรือโดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไปมากกว่ากัน ปูตินกล่าวว่าไบเดนเป็นที่ต้องการมากกว่า เพราะเขามีประสบการณ์มากกว่าและคาดเดาได้มากกว่า
“เราไม่มีผู้สมัครคนโปรด แต่แน่นอนว่าเดโมแครตคาดเดาได้ง่ายกว่า สิ่งที่ปูตินพูดเกี่ยวกับความคาดเดาได้ของไบเดนใช้ได้กับเดโมแครตเกือบทั้งหมด รวมถึงนางแฮร์ริสด้วย” เปสคอฟกล่าว
ขณะเดียวกัน เปสคอฟยังได้แสดงความเสียใจต่อสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย โดยกล่าวว่าความตึงเครียดระหว่างทั้งสองอยู่ในระดับสูงสุด และถึงจุดแตกหักภายใต้การบริหารของไบเดน
ส่วนคำถามถึงอนาคตของนโยบายของพรรคเดโมแครตต่อรัสเซียและสหภาพยุโรป เปสคอฟกล่าวว่าก็คาดเดาได้ง่ายเช่นกัน
“ทุกอย่างคาดเดาได้ พวกเขาจะยึดมั่นในนโยบายเดียวกันกับเรา พวกเขาจะยังคงกดดันประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปต่อไป และจะยังคงกดขี่ประเทศเหล่านั้นทางการเมืองและเศรษฐกิจต่อไป”
โฆษกรัฐบาลรัสเซียเสริมว่า สหรัฐฯ มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับความขัดแย้งในยูเครน แม้จะมีการกล่าวอ้างหลายครั้งที่ขัดแย้งกัน
“แม้จะมีการกล่าวอ้างหลายครั้งที่ขัดแย้งกัน แต่สหรัฐฯ มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับความขัดแย้งรอบ ๆ ยูเครน แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่จะเพิ่มระดับการมีส่วนร่วมในความขัดแย้งนี้” เปสคอฟกล่าว พร้อมกล่าวหาว่าวอชิงตันมี “ทัศนคติเป็นศัตรูอย่างไม่ปิดบัง” ต่อรัสเซีย โดยสหรัฐฯ ใช้เวลาหลายสิบปีในการกดดันรัสเซียและเหยียบย่ำผลประโยชน์ของสหรัฐฯ
ส่วนโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดได้ในชั่วข้ามคืนหากได้รับการเลือกตั้ง แม้ทรัมป์ให้สัญญาซ้ำแล้วซ้ำเล่าระหว่างการรณรงค์หาเสียงเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีว่าจะยุติความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเข้ารับตำแหน่ง
เปสคอฟแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำสัญญาหาเสียงของทรัมป์ โดยปฏิเสธข้อสันนิษฐานที่เป็นไปไม่ได้ว่า ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ อาจประกาศยุติการสนับสนุนทางทหารของสหรัฐฯ ต่อยูเครน และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายนั่งลงที่โต๊ะเจรจาในสุนทรพจน์เปิดงานในเดือนมกราคม 2025
ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ตกต่ำถึงขีดสุดภายใต้การนำของไบเดน และดูเหมือนว่าจะไม่สามารถกอบกู้ได้ในขณะนี้
“การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของไบเดนกลายเป็นจุดสุดยอดของกระบวนการทั้งหมดในความสัมพันธ์ทวิภาคีของเรา ซึ่งอาจอยู่ในจุดต่ำสุดในประวัติศาสตร์ในขณะนี้” เปสคอฟกล่าว และเสริมว่าจนถึงขณะนี้ เขายังไม่เห็นแนวโน้มที่ทั้งสองจะ “เข้าสู่วิถีการเติบโต” แต่อย่างใด
IMCT News