นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทเปิด 4 ปัจจัยผลักดัน 'ทรัมป์
36 0C
Thailand
Thailand
นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทเปิด 4 ปัจจัยผลักดัน 'ทรัมป์' สู่ชัยชนะ
ขอบคุณภาพจาก Rolling Stone
8/11/2024
หลังโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 ในปีนี้ (2024) แม้ผลโพลก่อนหน้าจะออกมาสูสีกับกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ชาร์ลส์ ออร์เทล นักวิเคราะห์วอลล์สตรีท ได้ออกมาวิเคราะห์ถึง 3 เหตุผลหลักเบื้องหลังชัยชนะของทรัมป์สู่ทำเนียบขาวอีกสมัย
ประการแรก ความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงของ “ไบเดนโนมิกส์ (Bidenomics)” แม้จะกู้ยืมและใช้จ่ายเงินหลายล้านล้านดอลลาร์ จากการที่ “ชาวอเมริกันลงคะแนนเสียงโดยคำนึงถึงสวัสดิการและแนวโน้มทางเศรษฐกิจก่อน” ออร์เทลกล่าว “ผู้ได้รับผลประโยชน์เพียงรายเดียวจากการบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และแฮร์ริส คือผู้บริจาคทางการเมืองและผู้มีข้อมูลภายในที่เกี่ยวข้อง ค่าจ้างหลังหักภาษีและเงินเฟ้อสำหรับพนักงานภาคเอกชน ซึ่งเป็นกลุ่มหลัก ลดลงอย่างมากและอยู่ภายใต้ภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง”
ประการที่สอง อาชญากรรมที่พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่เมือง เพราะ “แนวทางการเปิดพรมแดนของไบเดน-แฮร์ริส ร่วมกับอัยการเขตที่ได้รับทุนจากจอร์จ โซรอสที่ปฏิเสธที่จะดำเนินคดี และขบวนการ 'ยุบตำรวจ' ทำให้ผู้มีแนวคิดสายกลางและผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกเข้าร่วมขบวนการ MAGA”
ประการที่สาม มาจาก “กลุ่มคนโง่เขลาที่หยิ่งผยองในบัตรเลือกตั้งของพรรคเดโมแครตที่ได้รับการสนับสนุนจาก 'คนดัง' ที่ไม่รู้จักโลกและไร้ชนชั้น” โดย “แคมเปญของพรรคเดโมแครตในปีนี้ (2024) นั้นมีประสิทธิภาพน้อยกว่าฮิลลารีในปี 2016 และไบเดนในปี 2020 ด้วยซ้ำ” ออร์เทลกล่าว พร้อมย้ำว่า “ครั้งนี้ แฮร์ริสและ ทิม วอลซ์ไม่จริงใจ ไร้ความสามารถ และแย่มากในการเชื่อมโยงกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่น่าจะเป็นไปได้ ในขณะที่ทรัมป์สร้างทีมในฝันที่หลากหลายซึ่งประกอบด้วยฮีโร่ที่แท้จริง ในขณะที่ทรัมป์เองเป็นผู้นำและนักขายที่เก่งกาจ”
ออร์เทลดึงความสนใจไปที่จำนวนผู้ลงคะแนนเสียงของคนผิวสี ละติน และผู้หญิงจำนวนมากสำหรับทรัมป์ แม้ว่ากลุ่มประชากรเหล่านั้นจะถือเป็นผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตมาช้านานก็ตาม
ขณะเดียวกัน ออร์เทลก็เชื่อว่าพรรคเดโมแครตพยายามโกงการเลือกตั้งในปี 2024 “ด้วยวิธีการนับไม่ถ้วน” แต่กระแสการสนับสนุนจากผู้สนับสนุนทรัมป์ “มีมากเกินกว่าที่จะโกงได้” โดยเชื่อว่าการประพฤติมิชอบของพรรคเดโมแครตจะถูกเปิดเผยได้อย่างเต็มที่ เมื่อทรัมป์ได้รับการยืนยันจากคณะรัฐมนตรีในตำแหน่งสำคัญแล้วเท่านั้น
ประการที่สี่ คือ ทรัมป์จะเน้นที่ประเด็นในประเทศ ไม่ใช่สงครามในต่างประเทศ ซึ่งออร์เทลเชื่อว่างานแรกของโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อเขาเข้ารับตำแหน่งคือการ 'ทำความสะอาดบ้าน' เพราะ "ชิ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของเศรษฐกิจอเมริกันคือกลุ่มคนที่ทำหน้าที่ในรัฐบาลที่บวมขึ้นอย่างน่าเวทนาและไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะถูกควบคุมอย่างเข้มงวด" ซึ่ง "ในเรื่องนี้ อีลอน มัสก์และบุคคลที่โดดเด่นคนอื่นๆ จะมีบทบาทสำคัญ"
ขณะเดียวกัน ออร์เทลก็มองว่า โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ อาจเป็นเครื่องมือสำคัญในการปฏิรูป "ปัญหา 'การรักษาพยาบาล' ที่มีราคาแพงอย่างไม่สมเหตุสมผล ซึ่งดูเหมือนว่าจะส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันทั้งหมด ในขณะที่ทำให้ผู้ทุจริตร่ำรวยขึ้น
นอกจากนี้ รัฐบาลของทรัมป์ยังจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาและ "ขจัดการปลูกฝังทางการเมือง" ในการสอน “นอกจากนี้ ทีมของทรัมป์ยังสามารถนำองค์กรการกุศลที่ทุจริตจำนวนนับไม่ถ้วนมาสู่กระบวนการยุติธรรมที่รอคอยมานานได้ในที่สุด” หลังออร์เทลได้สืบสวนการฉ้อโกงที่ถูกกล่าวหาของมูลนิธิคลินตันมาหลายปี
“เมื่อทรัมป์ฟื้นความเชื่อมั่นในกระทรวงยุติธรรม กรมสรรพากร และฝ่ายตุลาการของรัฐบาล ผมเชื่อว่าเงินลงทุนนับล้านล้านดอลลาร์จะไหลกลับเข้ามาในอเมริกา และงานภาคเอกชนที่มีค่ามากมายจะถูกสร้างขึ้นโดยผู้ประกอบการอย่างอีลอน มัสก์และคนอื่นๆ”
IMCT News
ที่มา https://sputnikglobe.com/20241106/top-three-reasons-why-trump-won--1120797232.html
