ขอบคุณภาพจาก voanews
27.04.2024
สหรัฐฯ เรียกร้องกัมพูชาให้มีความโปร่งใสในข้อเสนอโครงการขุดคลองมูลค่า 1,700 ล้านดอลลาร์ (6.2 แสนล้านบาท) ที่ได้รับทุนจากจีน แต่ทำให้ทางเวียดนามกังวล เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อการจัดการทรัพยากรน้ำได้
นายเวสลีย์ โฮลเซอร์ โฆษกสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงพนมเปญ บอกกับ VOA Khmer ทางอีเมลว่า “ชาวกัมพูชา พร้อมด้วยผู้คนในประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาคโดยรวม จะได้ประโยชน์จากความโปร่งใสในการดำเนินการใด ๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อการจัดการน้ำ ความยั่งยืนทางการเกษตร และความมั่นคงในระดับภูมิภาค”
กัมพูชาอนุมัติให้ขุดคลองฟูนัน เตโชที่มีความยาว 180 กิโลเมตร ในเดือนพฤษภาคมปี 2024 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อริเริ่มหนึ่งแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative หรือ BRI) ของจีน ที่จะเชื่อมต่อชายฝั่งทะเลของจังหวัดแกบเข้ากับจังหวัดกันดาลและจังหวัดตาแก้ว เป็นโครงการที่เสนอให้ออกแบบคลอง โดยมีความกว้างในส่วนต้นน้ำ 100 เมตร และความกว้างของปลายน้ำ 80 เมตร โดยมีความลึกสม่ำเสมออยู่ที่ 5.4 เมตร เป็นโครงการระบบโครงสร้างพื้นฐานในกัมพูชาล่าสุดที่ได้งบจากจีน
โฆษกกระทรวงโยธาธิการและการขนส่งกัมพูชา กล่าวกับ VOA Khmer ว่า โครงการนี้คาดว่าจะลงมือสร้างก่อนสิ้นปี 2024 ตามแผนที่วางไว้
โฆษกสถานทูตสหรัฐฯระบุว่า ทางสหรัฐเรียกร้องให้ทางการกัมพูชาประสานงานอย่างใกล้ชิดกับคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง [MRC] เพื่อให้รายละเอียดโครงการเพิ่มเติม และเข้าร่วมการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้ MRC และประเทศสมาชิกเข้าใจ ประเมิน และเตรียมความพร้อมสำหรับ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นของโครงการ
รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามกล่าวว่า เวียดนามสนใจข้อมูลเกี่ยวกับโครงการคลองฟูนัน เตโชเป็นอย่างมาก และได้ขอให้ฝ่ายกัมพูชาประสานงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่ายเวียดนามและคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงระหว่างประเทศ ในการแบ่งปันข้อมูลและประเมินผลกระทบในครั้งนี้ด้วย
ไบรอัน ไอเลอร์ นักวิชาการอาวุโสและผู้อำนวยการโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ Stimson Center ในกรุงวอชิงตัน เผยว่า รัฐบาลกัมพูชายังคงกล่าวว่าคลองนี้ ไม่ได้เชื่อมต่อกับแม่น้ำโขง แต่ข้อมูลจำเพาะที่คณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติกัมพูชายื่นต่อคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงแสดงถึงพื้นที่บางจุดของคลองที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำโขงในจังหวัดกันดาล ใกล้ๆ กับท่าเรือของจังหวัด
เขาเขียนอีเมลถึง VOA Khmer ว่า หากมีการใช้คลองเพื่อการชลประทานจริง ความกังวลของเวียดนามก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น เพราะทางเดียวที่จะทำการชลประทานจากคลองได้คือการเอาน้ำออกจากแม่น้ำโขง ในปริมาณที่มากกว่าที่ระบุไว้ในเอกสารที่แจ้งต่อ MRC เสียอีก ดังนั้น จึงยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับโครงการนี้ ที่ดูเหมือนว่าจะคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้เผยแพร่ข้อมูลในระดับที่เหมาะสมและหยิบยกขึ้นมาหารือในระดับภูมิภาค
เขาเสริมว่าโครงการดังกล่าวจะสร้างรอยร้าวระหว่างกัมพูชาและเวียดนาม และบังคับให้ประเทศอื่น ๆ เลือกข้างว่าจะสนับสนุนฝ่ายใด ดังนั้นข้อตกลงแม่น้ำโขงแห่งปี 1995 และคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง จึงถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์เชิงลบและความหายนะเหล่านี้ MRC จำเป็นต้องมีส่วนร่วมในทุกระดับของโครงการด้วย แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้ว
เมื่อเดือนธันวาคมปี 2023 นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ของกัมพูชาให้ความมั่นใจกับเวียดนาม โดยกล่าวว่าโครงการจะไม่สร้างผลกระทบด้านลบใด ๆ ต่อการไหลของน้ำในแม่น้ำโขงหรือแม่น้ำอื่น ๆ ขณะเดียวกันก็รักษาสภาพแวดล้อม นิเวศวิทยา และที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติสำหรับความหลากหลายทางชีวภาพไว้ด้วย
นายริม ซกวี นักวิจัยอิสระในกัมพูชากล่าวว่า โครงการนี้อาจมีส่วนสำคัญต่อภาพลักษณ์ของนายฮุน มาเนต และรัฐบาลกัมพูชาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันไม่ให้โครงการล้มเหลว โครงการนี้จะล้มเหลวไม่ใช่เพราะการต่อต้านจากเวียดนาม แต่เป็นการถอนทุนสนับสนุนจากจีน แต่มองว่า จีนจะไม่ทำเช่นนั้นเนื่องจากกัมพูชาเป็นพันธมิตรหลัก
By IMCT NEWS