เกาะติดผลเลือกตั้งประธานาธิบดี สหรัฐฯ #47
ทรัมป์'ประกาศชัยชนะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47
ลั่นนำอเมริกากลับสู่ยุคทอง-หยุดสงคราม Make America Great Again
ผู้นำทั่วโลกส่งสารแสดงความยินดี
โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่สอง ท่ามกลางกระแสแสดงความยินดีจากผู้นำนานาประเทศ โดยกล่าวสุนทรพจน์ต่อกลุ่มผู้สนับสนุนที่รัฐฟลอริดา เน้นย้ำนโยบาย "ไม่ก่อสงคราม แต่จะหยุดสงคราม" มุ่งสร้างความยิ่งใหญ่ให้อเมริกาอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประกาศชัยชนะของทรัมป์ มีผู้นำจากหลายประเทศส่งสารแสดงความยินดี โดยต่างแสดงความหวังว่าจะได้กระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
"นี่คือชัยชนะทางการเมืองที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา"ทรัมป์กล่าวท่ามกลางเสียงปรบมือของผู้สนับสนุน พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ว่าการกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของเขาจะเป็น "ยุคทองอย่างแท้จริง" ของประเทศ
ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ยังให้คำมั่นว่าจะต่อสู้เพื่อประชาชน ครอบครัว และอนาคตของชาวอเมริกันทุกคนในทุกๆ วัน โดยจะมุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งด้านการป้องกันประเทศ รักษาความปลอดภัยของสหรัฐฯ และทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนทุกประการ
"เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง ผมรู้ว่าเป็นภารกิจที่ยาก แต่จะทุ่มเทสุดหัวใจเพื่อทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง (Make America Great Again)" ทรัมป์กล่าวทิ้งท้าย
#imctnews รายงาน
---------------------------------------------------------------
Fox News FORECAST: Trump is on track to win 277 electoral college votes, ensuring his victory in the US presidential election.
Subscribe to @SputnikInt
เวลา 13.20 น. CNN รายงานว่า ศูนย์เลือกตั้งของกมลาอยู่ใน "ความเงียบสนิท" โดยพยายามค้นหา "จุดสว่าง" ที่พวกเขาสามารถพบได้
เวลา 13.00 น. คะแนน electoral college votesล่าสุดทรัมป์ได้ 247 ส่วนแฮร์ริสได้ 210
เวลา 11.52 น. ตัวเลยจากAP รายงานว่าทรัมป์ได้ 230 เทียบกับ 205 สำหรับแฮร์ริส สำหรับคะแนนelectoral college votes
เวลา 11.30 น. CNN พยายามยื้อ โดยรายงานว่าผลการเลือกตั้งในรัฐสมรภูมิทั้ง 7 ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าใครชนะ
เวลา11.09 น. ทรัมป์มาแรงสุดๆ
ในขณะนี้ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันและอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เป็นผู้นำในรัฐส่วนใหญ่ รวมถึงแอละแบมา อาร์คันซอ ฟลอริดา อินเดียนา ไอโอวา แคนซัส เคนตักกี้ มิสซิสซิปปี้ มิสซูรี มอนแทนา นอร์ทดาโคตา เซาท์ดาโคตา เนแบรสกา โอคลาโฮมา ออริกอน , เซาท์แคโรไลนา, เทนเนสซี, เวสต์เวอร์จิเนีย, ไวโอมิง, ยูทาห์ และรัฐสมรภูมิอย่างจอร์เจียและวิสคอนซิน เข้ายึดนอร์ทแคโรไลนา, เพนซิลเวเนีย และมิชิแกน จากผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต
จนถึงขณะนี้เขาได้รับคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 210 เสียง
ในทางตรงกันข้าม กมลา แฮร์ริสเป็นผู้นำในรัฐคอนเนตทิคัต โคโลราโด เดลาแวร์ อิลลินอยส์ แมริแลนด์ เมน แมสซาชูเซตส์ นิวแฮมป์เชียร์ นิวเจอร์ซีย์ นิวเม็กซิโก นิวยอร์ก โอไฮโอ โรดไอส์แลนด์ เท็กซัส เวอร์มอนต์ และเวอร์จิเนีย โดยมีทั้งหมด ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 113 เสียง
ในรัฐแอริโซนาที่เป็นรัฐสมรภูมิ ผู้สมัครทั้งสองมีคะแนนที่สูสีจากการนับคะแนนที่กำลังดำเนินไป
ทรัมป์นำแฮร์ริสเกือบ100คะแนนelectoral college votes ที่มีผลชี้ขาดการเลือกตั้งประธานาธิบดี
เวลา 10.47 น. Bitcoin สร้างสถิติราคาสูงสุดที่ $75,000 หรือมูลค่าตลาดรวม$1.45 ล้านล้าน เพราะนักลงทุนเชื่อว่าทรัมป์จะสนับสนุนตลาดคริปโต
เวลา 10.41 น. : ปี 2024 กลายเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา
การรณรงค์หาเสียงของทรัมป์และแฮร์ริสระดมเงินสดได้มากถึง 4.2 พันล้านดอลลาร์สำหรับสงครามการเลือกตั้งในปี 2024 และใช้เงินประมาณ 3.5 พันล้านดอลลาร์แคมเปญเลือกตั้งภายในกลางเดือนตุลาคม ตามการคำนวณของ Financial Times
ตัวเลขจากการยื่นไฟลิ้งกับทางการพบว่า แคมเปญของแฮร์ริสระดมทุนได้มากกว่าโดนัลด์ ทรัมป์เป็นจำนวนมาก โดยหาเงินสนับสนุนได้มากกว่า 2.3 พันล้านดอลลาร์ และใช้จ่ายเงิน 1.9 พันล้านดอลลาร์ไปแล้ว เมื่อเทียบกันแล้ว อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ระดมเงินสนับสนุนได้ 1.8 พันล้านดอลลาร์ และใช้เงินไปในเคมเปญ 1.6 พันล้านดอลลาร์
เงินสดของแคมเปญถูกใช้ไปกับสื่อและโฆษณาเป็นส่วนใหญ่ (1.03 พันล้านดอลลาร์โดย Harris เทียบกับ 760 ล้านดอลลาร์สำหรับ Trump ตามลำดับ) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและการบริหาร (240 ล้านเทียบกับ210 ล้านดอลลาร์) งานระดมทุน (180 ล้านดอลลาร์เทียบกับ 80 ล้านดอลลาร์) โฆษณาไดเร็กเมล์ (60 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 90 ล้านดอลลาร์) ค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย (30 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 110 ล้านดอลลาร์) ค่าเดินทางและที่พัก (50 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 70 ล้านดอลลาร์) งานหาเสียงในพื้นที่และการปฏิบัติงานภาคสนาม (50 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ70 ล้านดอลลาร์) สินค้า (60 ดอลลาร์ ล้านเทียบกับ 40 ล้านดอลลาร์), การจัดงานอีเว้นท์ (70 ล้านดอลลาร์, 40 ล้านดอลลาร์) และอื่นๆ
การใช้จ่ายด้านสื่อส่วนใหญ่ถูกใช้ไปในเจ็ดรัฐสมรภูมิ โดยค่าย Harrisใช้เงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ที่นั่น
เวลา 10.30 น. ทรัมป์มีคะแนนผู้เลือกตั้ง 198 คะแนน แฮร์ริสได้ 109 คะแนน
เวลา 10.29 น. ผู้วิจารณ์ทางการเมืองและคอลัมนิสต์ Newsmax ไมเคิล แชนนอน: "โดนัลด์ ทรัมป์ มีโอกาสชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างแท้จริง แต่เขาต้องมีผู้ติดสอยห้อยตามที่เป็นพันธมิตรที่มีประสิทธิภาพ ที่คุมเสียงข้างมากในทั้งสองสภาเพื่อมีโอกาสในการปกครองอย่างมีประสิทธิผล"
เวลา 10.23 น. เหลือคะแนนผู้เลือกตั้ง electoral college votes อีกเพียง 72 คะแนน ทรัมป์จะชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี
เวลา 10: 17 น. Marjorie Taylor Greene: "เหตุผลที่ [บารัค โอบามา] พูดว่า 'เราอาจไม่รู้ [ผลลัพธ์]ของการเลือกตั้งเป็นเวลาหลายวัน' ก็เพราะพวกเขาวางแผนที่จะขโมยการเลือกตั้ง"
เวลา 10.13 น. ปัจจุบัน โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้นำในรัฐแอละแบมา อาร์คันซอ ฟลอริดา อินเดียนา แคนซัส เคนตักกี้ เมน มิสซิสซิปปี้ มิสซูรี มอนแทนา นอร์ทดาโคตา เซาท์ดาโคตา เนแบรสกา โอคลาโฮมา โอเรกอน เซาท์แคโรไลนา เทนเนสซี เวสต์เวอร์จิเนีย ไวโอมิง ยูทาห์ และรัฐสมรภูมิอย่างจอร์เจียและวิสคอนซิน โดยแซงหน้านอร์ทแคโรไลนาและเพนซิลเวเนียจากผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต จนถึงขณะนี้เขาได้รับคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 198 เสียง
ในทางตรงกันข้าม กมลา แฮร์ริสเป็นผู้นำในรัฐคอนเนตทิคัต โคโลราโด เดลาแวร์ อิลลินอยส์ ไอโอวา แมริแลนด์ แมสซาชูเซตส์ นิวแฮมป์เชียร์ นิวเจอร์ซีย์ นิวเม็กซิโก นิวยอร์ก โอไฮโอ โรดไอส์แลนด์ เท็กซัส เวอร์มอนต์ และรัฐมิชิแกนที่แกว่งไปมา ด้วยคะแนนเสียงผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 99 เสียง
เวลา 10:09 น : ที่รัฐสมรภูมิอริโซนา นับคะแนนไปแล้ว 34% ท้ังทรัมป์และแฮร์ริสมีคะแนนเท่ากันที่ 49.59% สูสีที่สุด!
เวลา 10.02 น. : ตามข้อมูลจากเว็บไซต์พนันการเลือกตั้ง Polymarket
อัตราต่อรองของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีอยู่ที่มากกว่า 79% ในวันพุธ
ซึ่งต่างจากอัตราต่อรองของรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสที่ 24.6%
เวลา 9.56 น. ล่าสุด! ทรัมป์มีคะแนนผู้เลือกตั้ง 198 แฮร์ริสได้ 99 ผู้ชนะเลือกตั้งต้องได้ 270
ส่วนคะแนนความนิยม ทรัมป์ 37.25 ล้านเสียงหรือ 53% ส่วนแฮร์ริสได้ 32.90 ล้านเสียงหรือ 47%
เวลา 9.42 น. สู้กันดุเดือดใน 7 รัฐสมรภูมิที่ชี้ขาดผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี ทรัมป์มีคะแนนนำในรัฐวิสคอนซิน จอร์เจีย และนอร์ทแคโรไลนา ส่วนแฮร์ริสได้คะแนนนำในมิชิแกน และเพนซิลวาเนีย ส่วนอีกสองรัฐสมรภูมิคืออริโซนา และเนวาดายังไม่ได้นับคะแนน
เวลา 09.35 น. คะแนนpopular votes ของทรัมป์ 26 ล้านเสียง ต่อแฮร์ริส 23 ล้านเสียง คะแนนผู้เลือกตั้งทรัมป์นำ177ต่อ 99
เวลา 09.04 น. ผลการเลือกตั้งรีพับลิกันจะครองเสียงข้างมากในสภาเซเนท
เวลา 8.54 น. ทรัมป์มีคะแนนนำในอลาบามา อาร์คันซอส์ ฟลอริดา อินเดียนา เคนตั๊กกี้ เมน มิสซิสซิปปี้ มิสซูรี่ นอร์ทดาโคตา โอคลาโฮมา เซาท์แคโรไลนา เทนเนสซี่ เวสท์ เวอร์จิเนีย และรัฐสมรภูมิจอร์เจีย และนอร์ทแคโรไลนา โดยได้คะแนนผู้เลือกตั้งรวมกัน101คะแนน
ส่วนแฮร์ริสมีคะแนนนำที่คอนเนคติคัท อิลลินอยส์ แคนซัส แมร์รี่แลนด์ แมสซาชูเซตส์ นิวแฮมเชียร์ นิวเจอร์ซี่ โอไฮโอ โรห์ดไอร์แลนด์ เท็กซัส เวอร์มองท์ และรัฐสมรภูมิมิชิแกน และเพนซิลวาเนีย ทำให้เธอได้คะแนนผู้เลือกต้ัง 71คะแนน
เวลา 8.43 น. ทรัมป์มีคะแนนผู้เลือกตั้งelectoral votes เหนือแฮร์ริส 101 ต่อ71 ผู้ชนะต้องได้270คะแนนส่วนนี้
เวลา 8.30 น. แฮร์ริสมีคะแนนนำทรัมป์ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา68.78% ต่อ30.06%
เวลา 8.07 น : แฮร์ริสนำทรัมป์72.5%ต่อ 26.7% จากการเริ่มนับคะแนนไป2.6%
เวลา 7:37 น. ทรัมป์นำแฮร์ริสในรัฐฟลอริดาด้วยคะแนน 51.96% ต่อ 47.28% จากการนับคะแนนมากกว่า 19 %
เวลา 07.36 น. ในรัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นรัฐสมรภูมิ ทรัมป์มีคะแนนนำ54.38% แฮร์ริสได้ 45.44% จากการนับคะแนนที่เหลือไม่ถึง 1%
เวลา 07.33 น. ในรัฐนิวแฮมเชียร์ แฮร์ริสนำ 51.2% ทรัมป์ได้ 47.6% จากการนับคะแนนทั้งหมดมากกว่า 2%
เวลา 07.27 น. AP รายงานว่า ทรัมป์ชนะในรัฐเคนตั๊กกี้ และอินเดียน่า ส่วนแฮร์ริสชนะรัฐเวอร์มองท์
เวลา 07.26 น. Sputnik รายงานว่าในการนับคะแนนในรัฐเวอร์จิเนียเหลืออีกไม่ถึง 1%
▪️ ในเพนซิลเวเนีย ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 47% สนับสนุนทรัมป์ เช่นเดียวกับในปี 2020 ในขณะที่ 46% สนับสนุนแฮร์ริส ซึ่งต่ำกว่าการสนับสนุนของไบเดนในปี 2020
▪️ ในนอร์ทแคโรไลนา ผู้ลงคะแนน 48% เห็นชอบแฮร์ริส เทียบกับไบเดน 50% ในปี 2020 ทรัมป์ได้รับการสนับสนุน 43% ซึ่งน้อยกว่าปี 2020 อยู่ 4 เปอร์เซ็นต์
▪️ในรัฐแอริโซนา การสนับสนุนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเท่าๆ กัน โดย 46% สนับสนุนทั้งแฮร์ริสและทรัมป์
▪️ ในรัฐมิชิแกน ผู้ลงคะแนน 45% สนับสนุนทรัมป์ ขณะที่ 48% เห็นชอบแฮร์ริส
▪️ ในจอร์เจีย 49% สนับสนุนแฮร์ริส ซึ่งน้อยกว่าตัวเลขของไบเดนในปี 2020 1 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่สนับสนุนทรัมป์ 46% เช่นเดียวกับในปี 2020
▪️ในเนวาดา ผู้ลงคะแนน 44% เห็นชอบแฮร์ริส ซึ่งน้อยกว่าไบเดนในปี 2020 อยู่ 8 เปอร์เซ็นต์ ทรัมป์ได้รับการสนับสนุน 47% ซึ่งต่ำกว่าการเลือกตั้งครั้งล่าสุด 1 เปอร์เซ็นต์
▪️ในรัฐวิสคอนซิน ผู้สนับสนุนทรัมป์ 44% ซึ่งสูงกว่าปี 2020 1 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ 47% สนับสนุนแฮร์ริส ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขในปี 2020 ของไบเดน 3 เปอร์เซ็นต์