Thailand
ขอบคุณภาพจาก RT
21.08.2024
เจ้าหน้าที่อาวุโสกองทัพรัสเซียเปิดเผยว่า การสอบสวนรายงานที่ยูเครนใช้อาวุธเคมีโจมตีในแคว้นคูสค์ พบว่าอาวุธที่ใช้มีต้นกำเนิดมาจากตะวันตก รักษาการผู้ว่าการแคว้นคูร์สระบุว่า ทีมซ่อมแซมของรัสเซียถูกยิงโดยกองกำลังยูเครนและได้รับพิษจากอาวุธเคมีดังกล่าว
หัวหน้ากองกำลังป้องกันเคมีและชีวภาพของรัสเซีย ได้แชร์ผลการสอบสวนเบื้องต้นที่ดำเนินการโดยกองกำลังของตน โดยกล่าวกับ Zvezda TV ว่า อาวุธที่ยูเครนใช้โจมตีคืออาวุธควัน และสารที่ทำให้เกิดควันนั้นเป็นแบบเดียวกับอาวุธที่สหรัฐฯและเยอรมนีใช้ ซึ่งประกอบด้วยเฮกซะคลอโรอีเทนและซิงค์ออกไซด์
ควันขาวที่เกิดจากการผสมกันของสารประกอบทั้งสองชนิดนั้นเป็นพิษเล็กน้อยและมีการใช้งานทางทหารและสาธารณะหลายประเภท เจ้าหน้าที่ของรัสเซียกล่าวด้วยว่า ทางการทหารและกระทรวงสาธารณสุขได้จัดการเก็บตัวอย่างในสถานที่เกิดเหตุการโจมตีตามข้อกำหนดขององค์การเพื่อการห้ามอาวุธเคมี (OPCW) ห้องปฏิบัติการของรัสเซียที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานเฝ้าระวังระหว่างประเทศกำลังศึกษาตัวอย่างเหล่านี้อยู่
เขาระบุอีกว่า เจ้าหน้าที่รัสเซียยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสารเติมแต่งในอาวุธเคมีเหล่านี้ “แต่เรายังมีเวลาและเรายังไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว”
กองกำลังรัสเซียภายใต้การบัญชาการของเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายนี้ ซึ่งรับผิดชอบในการปกป้องทหารและพลเรือนจากอาวุธทำลายล้างสูง ได้ระบุว่า ยูเครนใช้อาวุธเคมีประมาณ 400 ครั้ง นับตั้งแต่เริ่มเกิดความขัดแย้งกับรัสเซียในปี 2022 โดยอาวุธส่วนใหญ่เป็นสารเคมีที่ตำรวจใช้ทั่วไป แต่อาวุธบางรายการก็ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ เจ้าหน้าที่รัสเซียกล่าวว่า มีบางกรณีที่ใช้สารพิษ ซึ่งสามารถสังเคราะห์ได้เฉพาะในสหรัฐฯเท่านั้น เพราะอุตสาหกรรมของประเทศอื่นไม่สามารถผลิตได้
เขาระบุอีกว่า OPCW ไม่ได้ดำเนินการตอบสนองต่อการร้องเรียนของรัสเซีย นอกเหนือจากหน้าที่ในการแชร์ข้อกล่าวหากับสาธารณชน “ไม่มีการสอบสวน ไม่มีการสอบถาม ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น”
เขายังได้แสดงถึงความกังวลของรัสเซียเกี่ยวกับการที่ยูเครนอาจสร้างระเบิดกัมมันตรังสี ซึ่งเป็นอุปกรณ์ระเบิดเคมีที่มีเปลือกหุ้มด้วยวัสดุกัมมันตรังสี และออกแบบมาเพื่อให้สารกัมมันตรังสีปนเปื้อนในวงกว้าง โดยเขาเชื่อว่ายูเครนมีแล้วหนึ่งลูก
By IMCT NEWS
อ้างอิงจาก: https://www.rt.com/russia/602564-chemical-weapons-kursk-region/
© Copyright 2020, All Rights Reserved