ขอบคุณภาพจาก Xinhua
07.07.2024
ราคาหุ้นของ Tesla พุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ จนเพียงพอที่จะล้างตัวเลขขาดทุนตลอดทั้งปี 2024 และทำให้ผลตอบแทนของหุ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา พุ่งไปอยู่ที่ 27%
ราคาหุ้นของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ปิดตลาดที่ 251.55 ดอลลาร์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (5 กรกฎาคม 2024) จากที่เคยปิดตลาดเมื่อปีที่แล้ว ที่ 248.48 ดอลลาร์ แล้วหลังจากนั้น หุ้นเทสลาก็มีราคาร่วงต่อเนื่องจนเหลืออยู่แค่ 138.80 ดอลลาร์ เมื่อเดือนเมษายน
การพุ่งขึ้นล่าสุดของหุ้น Tesla เกิดจากรายงานการส่งมอบรถยนต์ประจำไตรมาสสองของปี 2024 ที่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้ว่ายอดส่งมอบจะยังคงลดลง 4.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่การลดลงครั้งนี้ ก็ยังน้อยกว่าไตรมาสแรก ส่งผลให้เหล่านักลงทุนมีความหวังมากขึ้นสำหรับครึ่งปีหลังของปี 2024
เมื่อเดือนเมษายน ราคาหุ้นของ Tesla ร่วงลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ หลังเผชิญกับข่าวร้ายแรงหลายอย่าง เช่น ยอดขายในธุรกิจหลักด้านยานยนต์ลดลงในไตรมาสแรก และการปลดพนักงานจำนวนมาก ยังมีรายงานด้วยว่า Tesla ได้ยกเลิกแผนการผลิต รถยนต์ครอบครัวราคาประหยัด ที่จะผลิตที่โรงงานในรัฐเท็กซัสเร็วๆ นี้
Tesla มีกำหนดรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 หลังปิดตลาดในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ โดยประเด็นที่น่าจับตามมองคือ กำไรขั้นต้นจากธุรกิจยานยนต์
ตั้งแต่ปีที่แล้ว (2023) Tesla ได้นำเสนอส่วนลดและโปรโมชั่นมากมาย เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาสนใจรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเก่าของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Model 3 ซีดาน ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นยอดนิยม, รถครอสโอเวอร์ Model Y, รวมไปถึงรุ่นสำคัญอย่าง Model S ซีดาน และ Model X SUV ที่มีราคาแพงกว่า
ปลายปี 2023 Tesla ได้นำรถกระบะทรงเหลี่ยม Cybertruck ออกจำหน่าย โดย Tesla ได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดีย X ว่า รถกระบะรุ่นนี้กลายเป็นรถกระบะไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในสหรัฐฯ ประจำไตรมาส 2
ทางด้านฟอร์ด ผู้ผลิตรถยนต์อีกรายหนึ่ง ก็รายงานยอดขายรถกระบะไฟฟ้ารุ่น F-150 Lightning โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 7,902 คันในไตรมาสที่ 2 และขายได้ 15,645 คัน ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2024
นอกเหนือจากรายงานผลประกอบการที่จะมีขึ้น นักวิเคราะห์จากบริษัท Cantor Fitzgerald คาดหวังว่า งานส่งเสริมการตลาดของ Tesla ที่ชื่อว่า Tesla's Robotaxi Day ซึ่งจะจัดขึ้นต้นเดือนหน้าจะเป็นตัวเร่งราคาหุ้นของบริษัท
นักวิเคราะห์ระบุว่า Tesla เผยแผนสำหรับ Robotaxi (หรือ Cybercab) ซึ่งบริษัทมีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 8 สิงหาคมนี้ ทั้งที่นักวิเคราะห์ไม่เคยคาดคิดว่า ในส่วนนี้จะได้รับการเปิดตัวก่อนปี 2027 แต่ก็คาดหวังว่า มันจะเป็นส่วนธุรกิจที่สำคัญของบริษัทในระยะยาว
Cantor Fitzgerald คาดว่า Tesla จะส่งมอบรถยนต์น้อยลงในปีนี้ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ยังคงแนะนำให้ซื้อหุ้น Tesla โดยตั้งราคาเป้าหมายที่ 230 ดอลลาร์
แม้ว่าราคาหุ้น Tesla จะดีดกลับมาอีก แต่ก็ยังตามหลังตลาดโดยรวมในปี 2024 โดยดัชนี Nasdaq ปรับเพิ่มขึ้น 22% และ S&P 500 เพิ่มขึ้น 17% ในขณะที่ Tesla เพิ่มขึ้นเพียง 1.2%
ผลสำรวจล่าสุดจาก Axios Harris พบว่า แบรนด์ Tesla กำลังประสบปัญหาด้านภาพลักษณ์ที่ย่ำแย่ ซึ่งอย่างน้อยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากพฤติกรรมตลกๆ และการพูดใส่อารมณ์ทางการเมืองของอีลอน มัสก์
ด้านผลสำรวจจาก New York Times ก็ระบุว่า การที่มัสก์เลือกข้างทางการเมือง และกิจกรรมทางการเมืองของเขา กำลังผลักให้ลูกค้าที่เอียงซ้ายบางส่วน ถอยหนีไป
นอกจากนี้ Tesla ยังคงล่าช้ามาหลายปีแล้ว ในการส่งมอบซอฟต์แวร์ที่จะเปลี่ยนรถยนต์รุ่นที่มีอยู่เดิมให้กลายเป็นรถยนต์ขับขี่เองได้อัตโนมัติ โดยมัสก์เคยประกาศเมื่อเดือนตุลาคม 2016 ว่า รถยนต์ Tesla ทุกคันที่กำลังผลิตอยู่ในขณะนั้น มีฮาร์ดแวร์ที่จำเป็นสำหรับการขับขี่เองอัตโนมัติ แต่เมื่อปลายเดือนมิถุนายนปีนี้ เขากลับกล่าวว่า กำลังพัฒนาฮาร์ดแวร์อีกตัวและเซนเซอร์ชุดใหม่ที่จะช่วยให้รถยนต์เหล่านั้นสามารถขับขี่เองได้อัตโนมัติ
By IMCT NEWS
อ้างอิงจาก: https://www.cnbc.com/2024/07/05/tesla-shares-wipe-out-loss-for-the-year-with-27percent-rally-this-week.html