Thailand
ขอบคุณภาพจาก The Straits Times
4/9/2024
จีนขู่จะตอบโต้ญี่ปุ่นอย่างรุนแรงหากยังคงจำกัดการขายและการบริการอุปกรณ์ผลิตชิปให้กับบริษัทจีน ซึ่งจะทำให้ความพยายามของสหรัฐฯ ที่ต้องการตัดขาดเทคโนโลยีขั้นสูงจากเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนระบุจุดยืนดังกล่าวในการประชุมกับคู่ค้าชาวญี่ปุ่นเมื่อไม่นานนี้ ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก่อความกังวลในญี่ปุ่น ซึ่งโตโยต้า มอเตอร์ บอกกับเจ้าหน้าที่ในกรุงโตเกียวเป็นการส่วนตัวว่า ปักกิ่งอาจตอบสนองต่อการควบคุมเซมิคอนดักเตอร์ใหม่ด้วยการตัดการเข้าถึงแร่ธาตุสำคัญที่จำเป็นต่อการผลิตยานยนต์ของญี่ปุ่น
โตโยต้าเป็นหนึ่งในบริษัทที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น และมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งในนโยบายชิปของประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นบางส่วนจากข้อเท็จจริงที่ว่าโตโยต้าได้ลงทุนในแคมปัสชิปแห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้างโดยบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing ในเมืองคุมาโมโต ซึ่งทำให้ความกังวลดังกล่าวกลายเป็นประเด็นสำคัญสำหรับเจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่น นอกเหนือไปจากความกังวลของ Tokyo Electron ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ที่จะได้รับผลกระทบหลักจากมาตรการควบคุมการส่งออกใหม่ของญี่ปุ่น
สหรัฐฯ กดดันให้ญี่ปุ่นกำหนดข้อจำกัดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสามารถของบริษัทต่างๆ รวมถึง Tokyo Electron ในการขายเครื่องมือผลิตชิปขั้นสูงให้กับจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญระยะยาวเพื่อจำกัดความก้าวหน้าด้านเซมิคอนดักเตอร์ของจีน ในการเจรจาดังกล่าว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ได้ทำงานร่วมกับญี่ปุ่นในการกำหนดกลยุทธ์เพื่อให้แน่ใจว่ามีการจัดหาแร่ธาตุที่สำคัญอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่จีนกำหนดข้อจำกัดในการส่งออกแกลเลียม เจอร์เมเนียม และกราไฟต์ในปีที่แล้ว (2023)
เมื่อปี 2010 จีนได้ระงับการส่งออกแร่ธาตุหายากไปยังญี่ปุ่นเป็นการชั่วคราวหลังเกิดเหตุปะทะกันในน่านน้ำทะเลจีนตะวันออกซึ่งทั้งสองฝ่ายอ้างสิทธิ์ การเคลื่อนไหวดังกล่าวได้สั่นคลอนภาคส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่นและคุกคามที่จะปิดกั้นแหล่งผลิตแม่เหล็กกำลังสูงที่ผลิตในญี่ปุ่นโดยใช้แร่ธาตุหายากจากจีนทั่วโลก ตั้งแต่นั้นมา โตเกียวก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าแร่ธาตุหายากจากจีน
แหล่งข่าวบางคนกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ที่นำโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนมั่นใจว่า จะสามารถบรรเทาความกังวลของโตเกียวและบรรลุข้อตกลงกับญี่ปุ่นได้ภายในสิ้นปีนี้ (2024) แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีทางเลือกที่แข็งกร้าวกว่านั้น จากการที่สหรัฐฯ มีอำนาจที่เรียกว่ากฎผลิตภัณฑ์โดยตรงจากต่างประเทศ หรือ FDPR ซึ่งกฎดังกล่าวอนุญาตให้วอชิงตันควบคุมการขายผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นที่ใดก็ได้ในโลก โดยต้องใช้เทคโนโลยีของอเมริกาแม้เพียงเล็กน้อย
IMCT News
ที่มา https://www.straitstimes.com/business/china-warns-japan-of-retaliation-over-potential-new-chip-curbs-sources-say
© Copyright 2020, All Rights Reserved