Thailand
ขอบคุณภาพจาก RT
03.08.2024
โดนัลด์ ทรัมป์ ยืนกรานว่า จะลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯหากประสบปัญหาสุขภาพถ้าได้รับเลือกกลับมาอีกครั้ง โดยเขาให้คำมั่นในเรื่องนี้ที่การประชุมของสมาคมนักข่าวผิวสีแห่งชาติ (National Association of Black Journalists) ในเมืองชิคาโก
มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าหากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ เขาจะยังคงดำรงตำแหน่งได้ถึงอายุ 82 ปี ซึ่งแก่กว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบัน
จากนั้นทรัมป์ก็ถูกถามว่าเขาจะพิจารณาลาออกหรือไม่ หากสุขภาพของเขาแย่ลงในขณะที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งทรัมป์ก็ยืนยันว่าจะลาออก หากเขารู้สึกว่า ไปต่อไม่ไหว
ทรัมป์กล่าวอีกว่า เขาจะมีอายุมากกว่าไบเดนในตอนนี้อีกสี่ปีข้างหน้า แต่ความคิดและจิตใจยังไหวอยู่ และยืนกรานว่า เป็นความคิดที่ดีสำหรับใครก็ตามที่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ควรทำการทดสอบความทักษะและทดสอบความรู้ความเข้าใจ
ทรัมป์ในวัย 78 ปี เกือบเสียชีวิตในการหาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม เมื่อกระสุนปืนถูกยิงเฉียดใบหูของเขา จากความพยายามลอบสังหารแต่ล้มเหลว มือปืนซึ่งต่อมาทราบว่าคือ โทมัส แมทธิว ครูกส์ อายุ 20 ปี ได้ยิงปืนไปหลายนัด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายในฝูงชน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย แต่ครูกส์ก็ถูกยิงเสียชีวิตโดยการซุ่มยิงของหน่วยอารักขาคนสำคัญของสหรัฐ (US Secret Service)
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ไบเดนก็ตัดสินใจลาออกจากการเลือกตั้ง แต่จะอยู่ในตำแหน่งจนกว่าจะสิ้นสุดวาระ เพื่อเห็นแก่ผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ
ไบเดนมีสภาพร่างกายและความรู้สึกนึกคิดที่เริ่มถดถอย จึงกระทบกับการหาเสียงที่ต้องกินระยะเวลายาวนาน สาวกรีพับลิกัน ต่างอ้างซ้ำๆ ว่า ไบเดนไม่ฉับไวในการบริหารประเทศอีกแล้ว ผลงานที่ย่ำแย่ของไบเดนในการดีเบตกับทรัมป์ที่จัดโดย CNN เมื่อเดือนมิถุนายน ทำให้สมาชิกพรรคเดโมแครตก็เห็นในความถดถอยของไบเดนเช่นกัน
หลังจากไบเดนถอนตัวออกจากการแข่งขัน กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ วัย 59 ปี ก็ได้รับการสันนิษฐานว่า จะเป็นตัวแทนพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้
ปัจจุบัน ทรัมป์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ และคาดว่าจะสร้างสถิติประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุด หากเขาชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2
By IMCT NEWS
อ้างอิงจาก: https://www.rt.com/news/601952-trump-pledges-quit-health-decline/
© Copyright 2020, All Rights Reserved