ขอบคุณภาพจาก RT
18/4/2024
อิหร่านเปิดฉากโจมตีอิสราเอลแบบซึ่งๆ หน้า ทำให้หลายคนต้องหันมาให้ความสนใจต่อแสนยานุภาพทางกองทัพอิหร่าน และก็อยากรู้ว่า ของอิสราเอลจะเป็นอย่างไรบ้าง
กองทัพอิหร่านได้ชื่อว่า เป็นหนึ่งในกองทัพที่เกรียงไกรที่สุดในตะวันออกกลาง จากการรายงานของ globalfirepower.com ซึ่งได้จัดอันดับ 145 ประเทศในเรื่องความแข็งแกร่งของกองทัพ แล้วพบว่า อิสราเอลอยู่ในอันดับที่ 17 ส่วนอิหร่านอยู่ในอันดับที่ 14
และเมื่อเปรียบเทียบในด้านกำลังพลติดอาวุธ สองประเทศค่อนข้างแตกต่างกัน อิสราเอลมีจำนวนประชากร 9 ล้านคน เป็นทหาร 170,000 คน เป็นกองหนุน 465,000 คน จากรายงาน Military Balance 2024 ของสถาบันยุทธศาสตร์ศึกษานานาชาติ สวนทางกับอิหร่านซึ่งมีประชากรสูงถึง 70 ล้านคน เป็นทหาร 420,000 คน และกองหนุน 350,000 คน ส่วนกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามซึ่งเป็นกองกำลังย่อยของกองทัพอิหร่านอีกที มีกำลังทหาร 150,000 ถึง 200,000 คน
กองกำลังอิสราเอลล้วนมีอุปกรณ์รับมือที่ดี มีประสบการณ์ การเกณฑ์ทหารจะบังคับใช้กับชาวอิสราเอลที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยผู้ชายจะเป็นทหารนาน 36 เดือน และผู้หญิง 24 เดือน
ถ้าวัดในแง่กองทัพบก อิหร่านนำหน้าอิสราเอลไปเยอะมาก โดยมีรถถังทั้งหมด 1,996 คัน ส่วนอิสราเอลมีแค่ 1,370 คัน
มาวัดกันในแง่กองทัพอากาศกันบ้าง กองทัพอากาศอิสราเอลเต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และติดอันดับกองทัพอากาศที่ทรงอานุภาพที่สุดในโลก โดยมีเครื่องบินทั้งสิ้น 612 ลำ ครึ่งหนึ่งในนี้เป็นเครื่องบินขับไล่และโจมตีภาคพื้นดินสุดทันสมัย จากรายงานของ IISS ทั้งยังมีเฮลิคอปเตอร์โจมตีอาปาเช่ 46 ลำ และโดรนอีกเป็นจำนวนมาก อิสราเอลยังคงพุ่งเป้าไปที่เทคโนโลยีนวัตกรรม และยังผูกสัมพันธ์กับชาติตะวันตกเพื่อให้ช่วยสนับสนุนศักยภาพกองทัพอากาศให้มีเหนืออิหร่าน
ขณะที่กองทัพอิหร่าน มีศักยภาพน้อยกว่า โดยมีเครื่องบิน 551 ลำ มีทั้งรุ่นเก่าและรุ่นที่ผลิตเองภายในประเทศแต่ยังสู้ต่างชาติไม่ได้ เนื่องจากถูกนานาชาติคว่ำบาตรมานานและห้ามส่งออกอาวุธให้อิหร่าน แต่เมื่อปีที่แล้ว ( 2023 ) อิหร่านก็บรรลุข้อตกลงชุดใหม่ ได้เครื่องบินขับไล่ Su-35 มาจากรัสเซีย
แต่จุดสำคัญอยู่ตรงที่ อิหร่านหันมาพัฒนาโดรนติดอาวุธ ให้มีความล้ำหน้า และใช้ได้ผลดีกว่าเครื่องบินรบเสียอีก ส่วนขีปนาวุธ ทั้งอิหร่านกับอิสราเอลตุนไว้มากพอๆ กัน สองประเทศจึงใช้ขีปนาวุธยิงตอบโต้กันแบบตรงๆ ได้เลย
อิสราเอลมีขีปนาวุธนำวิถีพิสัยใกล้ Jericho 2 ยิงได้ไกล 1,500 กิโลเมตร ไปทั่วตะวันออกกลางและบางส่วนในอิหร่าน และ Jericho 3 มีพิสัยการยิงไกล 4,900 กิโลเมตร
ส่วนอิหร่าน ขีปนาวุธถือเป็นอาวุธสำคัญในการป้องปรามและแสดงแสนยานุภาพ อิหร่านลงทุนพัฒนาขีปนาวุธมาหลายสิบปี จนได้ชื่อว่า มีขีปนาวุธมากที่สุดและหลากหลายที่สุดในตะวันออกกลาง จากการรายงานของ CSIS Missile Defense Project
ขีปนาวุธพิสัยไกลที่สุดของอิหร่านคือ ขีปนาวุธนำวิถี Sejjil Ghadr และ Khorramshahr ทั้งหมดยิงได้ในเป้าหมาย 2,000 กิโลเมตรโดยรอบ แต่ที่เด็ดจริงๆ คือขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Fattah
ในขณะที่อิสราเอล มีความเหนือกว่าอิหร่านในด้านระบบป้องกันภัยทางอากาศ ซึ่งป้องกันได้ทั้งขีปนาวุธและโดรน มีทั้ง David’s Sling , Iron Dome , Arrow และ MIM-104 Patriot ที่ทำในสหรัฐ
ส่วนของอิหร่านมีระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ทำจากรัสเซีย คือ S-300 แต่ค่อนข้างล้าสมัยไปแล้วเมื่อเทียบกับของอิสราเอล แต่ก็มีที่อิหร่านพัฒนาขึ้นเอง คือ Bavar-373 และระบบป้องกันภัย Arman และ Azarakhsh ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ ( 2024 )
ในแง่ของกองทัพเรือ อิสราเอลอาจมีเรือจำนวนน้อยกว่า แต่ทันสมัย ส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่การป้องกันตามแนวชายฝั่งและสนับสนุนภารกิจทางบกและทางอากาศ โดยมีเรือดำน้ำ 5 ลำ มีอยู่สามลำในนี้ เป็นชั้น Dolphin ยิงขีปนาวุธนำวิถีติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ได้ และมีเรือลาดตระเวน 45 ลำ ส่วนอิหร่านมีเรือฟรีเกต 5 ลำ เรือดำน้ำกว่า 30 ลำ และเรือลาดตระเวนกว่า 200 ลำ แม้อิหร่านจะมีเรือมากกว่า แต่ส่วนใหญ่คือเก่าและไม่มีเทคโนโลยีล้ำหน้าอย่างอิสราเอล แต่ก็เน้นไปที่ภารกิจควบคุมและปิดช่องแคบทางเดินเรือที่สำคัญ เช่น ช่องแคบฮอร์มุซ
อิสราเอลยังมีทีเด็ดตรงที่มีสายลับ Mossad เน้นงานโจรกรรมและโจมตีในโลกไซเบอร์ ส่วนใหญ่มักพุ่งเป้าโจมตีสรรพสิ่งที่ข้องเกี่ยวกับการพัฒนานิวเคลียร์อิหร่าน
ส่วนอิหร่านเองก็มีกองกำลัง Quds อยู่ภายใต้กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน โดยปฏิบัติภารกิจไปทั่วโลก Quds มักร่วมมือกับเฮซบอลเลาะห์และฮามาสโจมตีอิสราเอลเป็นประจำ
By IMCTNews
https://www.newsweek.com/israel-iran-militaries-compared-missiles-drones-aircraft-1890244