Thailand
ขอบคุณภาพจาก RT
22/8/2024
โลหะเงินและทองคำเป็นสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนดีเยี่ยมในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ปีนี้ ( 2024 ) ทั้งคู่สร้างผลกำไรคืนกลับมาอย่างเป็นกอบเป็นกำ และดึงดูดให้ตลาดยังคงพุ่งแรงราวกระทิงดุต่อไป
ชาร์ตราคาสินค้า แสดงให้เห็นว่า ทั้งโลหะเงินและทองคำ ต่างพุ่งขึ้นต่อเนื่อง มีไม่กี่ช่วงเท่านั้น ที่ราคาอาจดิ่งลงบ้าง บรรดานักลงทุนที่เข้าเก็บสะสมตั้งแต่ต้นปี น่าจะได้กำไรกันอย่างมากมาย
แต่ถ้าเทียบกันจริงๆ โลหะเงินกลับสร้างผลตอบแทนแซงหน้าทองคำในปีนี้ สวนกระแสคาดการณ์ทั้งหมด เพราะในขณะที่สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องไปที่ทองคำ แต่กลับกลายเป็นว่า โลหะเงินกลับนำมาเป็นที่หนึ่ง สร้างผลกำไรได้มากกว่า ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์กำลังเฟื่องฟู แม้กระทั่งทองแดง ยังมีราคาพุ่งขึ้นเป็นตัวเลขสองหลักในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา
ราคาทองคำเข้าสู่ปี 2024 ที่ 2,049 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหลังจากนั้น ราคาก็ไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนพุ่งทำสถิติใหม่ที่ 2,500 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ในเดือนนี้ ( สิงหาคม ) ดัชนี XAU/USD หรือจำนวนดอลลาร์สหรัฐที่จำเป็นในการซื้อทองคำหนึ่งออนซ์ พุ่งขึ้นเกือบ 21% นับจากต้นปี เท่ากับว่า ถ้าเราเคยลงทุนซื้อทองคำ คิดเป็นเงิน 10,000 ดอลลาร์ เมื่อช่วงต้นปี แต่การจะซื้อทองคำให้ได้ปริมาณเดียวกันในเดือนสิงหาคม ต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นเป็น 12,100 ดอลลาร์แล้ว
ในทางกลับกัน โลหะเงินประเดิมราคาต้นปีที่ 23.6 ดอลลาร์ต่อ ออนซ์ หลังจากนั้น ราคาก็ไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ XAU/USD หรือจำนวนดอลลาร์สหรัฐที่จำเป็นต่อการซื้อโลหะเงินหนึ่งออนซ์ พุ่งขึ้นเป็น 29.4 ดอลลาร์แล้วในตอนนี้ หรือพุ่งขึ้นเกือบ 25% นับจากต้นปี เท่ากับว่า จากเดิมที่เคยใช้เงิน 10,000 ดอลลาร์ ลงทุนเมื่อต้นปี แต่ตอนนี้ ถ้าอยากได้โลหะเงินในปริมาณเดียวกัน ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มเป็น 12,500 ดอลลาร์ โลหะเงินสร้างผลงานแซงหน้าทองคำเกือบ 4% นับจากต้นปี
คาดว่า ทองคำจะมีราคาพุ่งต่อ เพราะนักลงทุนรายย่อย กองทุนสถาบันต่างๆ และธนาคารกลางแห่ตุน ส่วนโลหะเงินก็ทำราคาตีคู่มากับทองคำ เป็นสินทรัพย์ซึ่งเป็นที่ต้องการที่สุดในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เวลานี้ และคาดว่า ราคาจะพุ่งขึ้นทำสถิติใหม่ก่อนสิ้นปี
By IMCT News
อ้างอิงจาก https://watcher.guru/news/silver-outperforms-gold-in-the-commodity-markets-in-2024
© Copyright 2020, All Rights Reserved