ขอบคุณภาพจาก RT
24/6/2024
ศูนย์ยุทธศาสตร์และการศึกษานานาชาติ หรือ CSIS ของสหรัฐ เตือนว่า กองทัพจีนอาจใช้วิธีโดดเดี่ยวไต้หวัน ทำให้เศรษฐกิจไปต่อไม่ได้ และบีบให้ไต้หวันต้องยอมจำนนต่อจีน โดยที่จีนไม่ต้องยิงปืนแม้แต่นัดเดียว
มีความวิตกมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ว่า จีนอาจทำตามที่ตัวเองพูดไว้ คือ จะเข้ายึดไต้หวันโดยใช้กำลังทหารหากจำเป็น ซึ่งนักวิเคราะห์และนักวางยุทธศาสตร์ทางทหารหลายคน ก็พุ่งเป้ามานานแล้ว ในสองทางเลือกหลักที่จีนอาจลงมือทำ นั่นก็คือ บุกไต้หวันอย่างเต็มกำลัง หรือ ปิดล้อมทางทหาร
แต่ศูนย์ยุทธศาสตร์และการศึกษานานาชาติ หรือ CSIS ของสหรัฐ กลับเตือนว่า จะมีทางเลือกที่สาม และเป็นทางเลือกที่สหรัฐและประเทศประชาธิปไตยอื่นๆ ยากที่จะรับมือ นั่นคือ การโดดเดี่ยวไต้หวัน
ยุทธศาสตร์ในแบบนี้ ถูกเรียกว่า “ Gray Zone “เป็นการสร้างความตึงเครียดในระดับที่ต่ำกว่าการทำสงคราม โดยหน่วยยามฝั่งจีน อาจลงมือโดดเดี่ยวไต้หวันเพียงบางส่วนหรือทั้งหมด อาจเป็นไปได้ที่จะใช้วิธีตัดการเข้าถึงท่าเรือและจุดแวะจอดเพื่อส่งเสบียง เช่น พลังงาน ไม่ให้เข้าถึงไต้หวัน ซึ่งมีประชากร 23 ล้านคน
สามเหล่าทัพจีนซึ่งมีกำลังทหารรวมกันใหญ่สุดในโลก ทั้ง กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกองทัพบก อาจรับบทสนับสนุน
ในการประชุมสุดยอดทางทหาร หรือ Shangri-La Dialogue ซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์เมื่อต้นเดือนนี้ ( มิถุนายน ) รัฐมนตรีกลาโหมจีน เตือน ผู้ใดที่สนับสนุนให้ไต้หวันแยกตัวเป็นอิสระ จะจบลงด้วยการทำลายตัวเอง จีนจะไม่ยอมให้แผนการนี้สำเร็จ ทั้งยังกล่าวโจมตีไปยัง กองกำลังภายนอกที่เข้าแทรกแซงด้วยการขายอาวุธ และมีการติดต่อทางเจ้าหน้าที่กับไต้หวันอย่างผิดกฎหมาย
เศรษฐกิจไต้หวันเป็นแบบตลาดเสรีที่พัฒนาแล้ว และจีนก็มักใช้กำลังทหารและเศรษฐกิจข่มขู่ไต้หวัน และยิ่งนับวัน ก็ยิ่งชัดเจนขึ้นภายใต้การปกครองของประธานาธิบดี สีจิ้นผิง
รายงานเน้นย้ำว่า จีนกำลังใช้ประโยชน์จากเจ้าหน้าที่ยามฝั่งให้มากขึ้น ซึ่งก็เหมือนหน่วยยามฝั่งทั่วโลก คือ ถูกพิจารณาว่า เป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเช่นกัน จึงสามารถตรงเข้าหยุดการสัญจร และออกกฎระเบียบควบคุมการขนส่งรอบเกาะไต้หวันได้ ซึ่งลักษณะเช่นนี้ จะเรียกว่า โดดเดี่ยวไต้หวัน ไม่เหมือนกับการปิดล้อมไต้หวันที่ต้องใช้กำลังทหาร
การโดดเดี่ยวนี้ ก็แค่เข้าควบคุมการสัญจรทางน้ำและทางอากาศรอบเกาะ รวมถึงการเข้าตรวจค้นและยึดเรือสินค้า จึงไม่ถือเป็นการประกาศสงคราม แต่ตามกฎหมายระหว่างประเทศ จะถือว่า การปิดล้อมคือการทำสงคราม ส่งผลให้สหรัฐอยู่ในจุดลำบากที่จะออกตัวเข้าช่วยไต้หวัน จีนยังอาจใช้วิธีโดดเดี่ยวไต้หวัน แต่ไม่ไปยุ่งอะไรกับช่องแคบไต้หวันเลย เพื่อให้สหรัฐไม่สามารถหาข้ออ้างเข้าแทรกแซงไต้หวัน เพราะนี่ไม่ใช่การทำสงคราม
วิธีการของจีนในแบบนี้ เป็นปฏิบัติการแบบเฉพาะจุดจริงๆ โดยจีนอาจเล็งเป้าไปยังเมือง เกาสง เมืองท่าที่คึกคักที่สุดของไต้หวัน เป็นเส้นทางนำเข้าสินค้าทางทะเลของไต้หวันมากถึง 57% ส่วนใหญ่เป็นพลังงาน
แต่บางคนก็มองว่า การโดดเดี่ยวไต้หวันในแบบนี้ อาจสิ้นเปลืองงบประมาณและเสียเวลาอีกด้วย อดีตผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการประจำศูนย์ข่าวกรองร่วม แห่งกองบัญชาการแปซิฟิกสหรัฐ มองว่า ไต้หวันคงยอมให้จีนโดดเดี่ยวได้นานถึง 60 วัน แต่จีนเองนั่นแหล่ะ ที่จะโดดเดี่ยวไต้หวันได้นานแค่ไหน และมีแนวโน้มว่า นานาประเทศต้องรีบหาทางเข้าแก้ไขสถานการณ์ เพราะไต้หวันถือเป็นประเทศอุตสาหกรรมสำคัญ และป้อนสินค้าสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะภาคเซมิคอนดักเตอร์
การโดดเดี่ยวไต้หวัน อาจบีบให้รัฐบาลไต้หวันถึงขั้นประกาศแยกตัวเป็นอิสระ ซึ่งจีนก็เคยบอกแล้ว ว่า การทำเช่นนั้นอาจทำให้ต้องนำอาวุธขึ้นมาใช้ทันที นักวิจัยอาวุโสจาก Royal United Services Institute ในลอนดอน เห็นว่า วิธีการโดดเดี่ยวไต้หวัน สุ่มเสี่ยงที่จีนจะได้เปรียบ หรือไม่ก็ถดถอยยาว ความอดทนคือหนทางเดียวที่จะประสบความสำเร็จในการรวมชาติ การบุกไต้หวัน หรือ ทำให้ความขัดแย้งบานปลาย ไม่คุ้มกับงบประมาณที่เสียไป ความสูญเสียจากสงคราม ไม่ใช่แค่ชีวิตผู้คน แต่ยังหมายรวมถึงความมั่งคั่งของประเทศด้วย
By IMCT News
อ้างอิงจาก https://edition.cnn.com/2024/06/21/china/china-taiwan-quarantine-intl-hnk-ml/index.html