ขอบคุณภาพจาก CGTN

28.10.2024

นักวิจัยของรัฐบาลจีน  เผยว่า ความต้องการทองแดงของจีนจะถึงจุดสูงสุดในช่วงปลายทศวรรษนี้ อาจช่วยสร้างมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มของโลหะชนิดนี้ได้

ในขณะที่บริษัท Beijing Antaike Information Development  ก็คาดการณ์ว่า  ความต้องการใช้ทองแดงในภาคอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน มีเพิ่มขึ้นอย่างมาก  จึงน่าจะส่งผลดีต่อโลหะประเภทนี้  แต่ทองแดงก็ยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และผู้ซื้อที่หันไปใช้อลูมิเนียมแทน

ความต้องการทองแดงของจีนในช่วง 5 ปีต่อจากนี้  หรือจนถึงปี 2030 จะเติบโตโดยเฉลี่ย 1.1% ลดลงจาก 3.9% เมื่อช่วง 5 ปีก่อน หรือจนถึงปี 2025   การลงทุนในทองแดงมีลดลง เพราะภาคอุตสาหกรรมใช้น้อยลง หรือหันไปใช้วัตถุดิบอื่นแทน

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีการคาดการณ์ที่น่าตกตะลึงเกี่ยวกับทองแดงหลายครั้ง โดยส่วนใหญ่แล้วมองว่า เหมืองแร่ทั่วโลกจะต้องดิ้นรนเพื่อให้ทันกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในระยะยาว

ราคาทองแดง ในปีนี้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 11,000 ดอลลาร์ ต่อตัน ท่ามกลางสัญญาณที่บ่งชี้ถึง ภาคการผลิตที่ตึงตัวอย่างมาก  แต่ราคาก็ได้ลดลงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เนื่องจากเศรษฐกิจของจีนประสบปัญหา และการผลิตในส่วนอื่นๆของโลกยังคงอ่อนแอ  ราคาทองแดงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แทบไม่เปลี่ยนแปลงเลย โดยอยู่ที่ 9,500 ดอลลาร์ ต่อตัน ในตลาดโลหะลอนดอน และมีแนวโน้มลดลงเป็นสัปดาห์ที่สี่

นักวิเคราะห์จีน มองว่า  ราคาจะพุ่งสูงสุดในปี 2030 หรือไม่นั้น  ยังมีปัจจัยเสี่ยงเข้ามาเกี่ยวข้อง  ได้แก่ ความแข็งแกร่งของภาคการส่งออกของจีนในอนาคต  รวมถึงการย้ายโรงงานไปต่างประเทศ แต่เขาไม่ได้พูดถึงแนวโน้มความต้องการทองแดงทั่วโลก   จีนจะใช้ทองแดงตั้งแต่ธุรกิจรถไฟฟ้า ไปจนถึงแผงโซลาร์และอุตสาหกรรมพลังงานลม  พุ่งเป็น 3.1 ล้านตันภายในปี 2030  คิดเป็น 26% ของความต้องการทั้งหมดของประเทศ เพิ่มขึ้นจาก 15% ในปี 2023

By IMCT NEWS

อ้างอิงจาก: https://finance.yahoo.com/news/china-copper-demand-peak-2030-053139126.html