ขอบคุณภาพจาก RT

27/5/2024

นายกรัฐมนตรีริชี ซูนัค ของอังกฤษให้คำมั่นว่าจะกลับมาบังคับเกณฑ์ทหารอีกครั้ง หากพรรคอนุรักษ์นิยมยังคงได้รับชัยชนะหลังการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 4 กรกฎาคม โดยคาดว่าการกลับมาเกณฑ์ทหารของอังกฤษจะมีค่าใช้จ่ายประมาณปีละ 2,500 ล้านปอนด์ (3,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งเยาวชนอายุ 18 ปีทุกคนจะต้องเลือกระหว่างการเข้าร่วมเป็นทหารในกองทัพแบบเต็มเวลา หรือเป็นอาสาสมัครช่วงสุดสัปดาห์กับองค์กรในชุมชน เช่น ตำรวจหรือบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) เดือนละครั้ง

ซูนัคระบุว่า การรับราชการทหารจะช่วยฟื้นฟู  “จิตวิญญาณของชาติ”และ“มอบโอกาสในการเปลี่ยนชีวิตให้กับคนหนุ่มสาว”

“[อังกฤษ] เป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ แต่คนรุ่นใหม่ไม่มีโอกาสเข้าถึงประสบการณ์ที่พวกเขาควรได้รับ นอกจากนี้ก็ยังมีกองกำลังที่พยายามแบ่งแยกสังคมของเราเพิ่มมากขึ้น ในโลกแห่งความไม่แน่นอน” ซูนัคอธิบาย

นายกรัฐมนตรีอังกฤษระบุว่า จะนำการเกณฑ์ทหารรูปแบบใหม่มาใช้ เพื่อสร้างความรู้สึกร่วมกันในหมู่คนหนุ่มสาว และสร้างความภาคภูมิใจในอังกฤษขึ้นมาใหม่ เพื่อให้คนหนุ่มสาวได้เรียนรู้ “ทักษะในโลกแห่งความเป็นจริง ทำสิ่งใหม่ๆ รวมถึงช่วยเหลือชุมชนและประเทศ”

หากพรรคอนุรักษ์นิยมได้รับเลือกอีกครั้ง ก็จะมีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อสรุปโครงการเกณฑ์ทหารดังกล่าว และเปิดตัวโครงการนำร่องในเดือนกันยายนปีหน้า (2025)

สำหรับแผนการรื้อฟื้นการเกณฑ์ทหารได้จัดทำขึ้นอย่างเป็นความลับ โดยมีเพียงที่ปรึกษาที่ใกล้ชิดที่สุดของซูนัคเท่านั้นที่จะเป็นผู้ให้รายละเอียด ซึ่งในเอกสารความยาว 40 หน้า ที่ปรึกษาแย้งว่า การขยายกองทัพมีความจำเป็นเมื่อเผชิญกับ “ภัยคุกคามระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากประเทศต่างๆ เช่น รัสเซียและจีน” แต่การประกาศดังกล่าวถูกโจมตีโดยฝ่ายค้านของอังกฤษ ซึ่งกล่าวหาว่าพรรคอนุรักษ์นิยมทำลายเศรษฐกิจอังกฤษและลดจำนวนทหาร

ตลอดระยะเวลา 364 ปีที่ผ่านมา กำลังพลในกองทัพอังกฤษส่วนใหญ่เป็นอาสาสมัครทั้งหมด ส่วนการเกณฑ์ทหาร ถูกนำมาใช้ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามโลกครั้งที่สอง ขณะที่ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา กำลังพลกองทัพอังกฤษลดจำนวนลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยจำนวนทหารลดลงกว่าร้อยละ 25 ระหว่างปี 2553 ถึง 2567

IMCT News

ที่มา https://www.rt.com/news/598247-uk-compulsory-service-sunak/