Thailand
'ทรัมป์' แค่ขู่ กูรูคาดไม่กล้าล้มกฎหมาย CHIPS วงเงิน 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์ หวั่นเสียฐานผลิตชิปให้จีน
8/11/2024
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่น่าจะยกเลิกกฎหมาย CHIPS และวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลไบเดน แม้ว่าเขาจะกล่าวสุนทรพจน์หาเสียงเกี่ยวกับร่างกฎหมายนี้ก็ตาม แม้โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อกฎหมาย CHIPS ในช่วงหาเสียง แต่เหล่าผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเขาจะไม่ยกเลิกกฎหมายสำคัญที่มุ่งดึงการผลิตชิปกลับสู่สหรัฐฯ เพียงแต่อาจปรับเปลี่ยนรายละเอียดการดำเนินงานบางส่วน
กฎหมาย CHIPS and Science Act ที่ได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรคการเมือง ลงนามโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อเดือนสิงหาคม 2565 มีวงเงินลงทุนเกือบ 53,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการผลิตและวิจัยเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ โดยมีเป้าหมายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับจีน
อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้กลายเป็นจุดถกเถียงในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง หลังทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์งบประมาณมหาศาล และไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน ถึงขั้นระบุว่าพรรคอาจพยายามยกเลิกกฎหมายนี้ ก่อนจะล่าถอยในภายหลัง
นายพอล ทริโอโล รองประธานอาวุโสฝ่ายจีนและผู้นำนโยบายเทคโนโลยีของ Albright Stonebridge กล่าวกับ CNBC ว่า แม้ทรัมป์จะส่งสัญญาณว่า "ไม่ตื่นเต้น" กับกฎหมายนี้ แต่คงไม่ถึงขั้นยกเลิก เพราะ "มีเสียงสนับสนุนการนำการผลิตขั้นสูงกลับสู่ประเทศ"
ปัจจุบัน กฎหมายดังกล่าวดึงดูดยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตชิปเอเชียอย่าง TSMC และ Samsung ให้มาตั้งโรงงานในสหรัฐฯ โดยได้เสนอเงินสนับสนุน 6.6 พันล้านดอลลาร์ และ 6.4 พันล้านดอลลาร์ตามลำดับ ขณะที่ Intel ผู้ผลิตชิปสัญชาติอเมริกันได้รับการจัดสรรมากที่สุดที่ 8.5 พันล้านดอลลาร์
ด้านนายอดัม โพเซน ประธานสถาบันเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศปีเตอร์สัน คาดว่ารัฐบาลทรัมป์อาจพยายามตีความกฎหมายใหม่เพื่อกระจายเงินทุนต่างจากรัฐบาลไบเดน "แต่จะไม่ถึงขั้นยกเลิก" เช่นเดียวกับที่ไบเดนคงภาษีจีนของทรัมป์ไว้เมื่อเข้ารับตำแหน่ง แม้จะปรับเปลี่ยนไปเน้นนโยบายอุตสาหกรรมมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยวิจารณ์ในการให้สัมภาษณ์พอดคาสต์กับโจ โรแกน ว่า "เราทุ่มเงินพันล้านให้บริษัทรวยมากู้ไปสร้างโรงงานชิป แต่พวกเขาก็ไม่ได้ให้บริษัทดีๆ มาตั้งที่นี่" พร้อมเสนอว่าการขึ้นภาษีจะดึงดูดบริษัทชิปได้โดยไม่ต้องใช้เงินสนับสนุน ซึ่งโพเซนเห็นว่า หากทรัมป์ได้กลับมาเป็นประธานาธิบดี น่าจะหันไปเน้นการใช้มาตรการภาษีมากกว่าการขยายนโยบายอุตสาหกรรม
ที่มา CNBC
© Copyright 2020, All Rights Reserved