ขอบคุณภาพจาก RT
31/5/2024
ดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่าเสื่อมถอย ในขณะที่ประเทศสหรัฐเอง สภาพเศรษฐกิจก็เข้าใกล้หายนะเข้าไปทุกที หนี้สินที่พอกพูนสร้างแรงกดดันให้เศรษฐกิจสหรัฐมากขึ้น จุดชนวนให้ดอลลาร์สหรัฐมีอำนาจในการซื้อลดต่ำลงทำสถิติใหม่อีกแล้ว ข้อมูลล่าสุด ระบุว่า ดอลลาร์สหรัฐมีอำนาจในการซื้อลดลง 23% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญแรงกดดันถาโถม ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวอเมริกัน เงินเฟ้อพุ่งสูงกำลังทำลายตลาดการค้าของประเทศ คุณภาพชีวิตของคนอเมริกันลดต่ำลง ซึ่งนับจากปี 2021 เป็นต้นมา เงินเฟ้อทำให้ราคาข้าวของในสหรัฐพุ่งราวติดจรวด เช่น น้ำมันเบนซิน ตั๋วเครื่องบิน ค่าไฟ และเนื้อไก่ คนอเมริกันส่วนใหญ่ดูหมดสิ้นหนทาง
ข้าวของสินค้าในสหรัฐมีราคาสูงขึ้นนับจากเงินเฟ้อปะทุตั้งแต่เดือนมกราคม 2021 เป็นต้นมา ข้อมูลจาก The Kobeissi Letter ระบุว่า ไข่ในสหรัฐมีราคาแพงขึ้น 49.3% นับจากเดือนมกราคม 2021 น้ำมันเบนซินมีราคาแพงขึ้น 47.8% , ตั๋วเครื่องบินแพงขึ้น 32.7% , ค่าไฟพุ่งขึ้น 29.3% , ก๊าซธรรมชาติแพงขึ้น 26.9% , เนื้อไก่แพงขึ้น 23.9% , ค่าโดยสารสาธารณะแพงขึ้น 22.2% , รถมือสองมีราคาแพงขึ้น 20.9% , น้ำนมแพงขึ้น 15% และ เสื้อผ้าแพงขึ้น 13.5%
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อำนาจซื้อของดอลลาร์สหรัฐลดลงไปแล้ว 16% แต่ถ้าคิดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อำนาจซื้อของดอลลาร์สหรัฐลดลงไปถึง 23% เท่ากับว่า ถ้าเราเก็บออมเงินดอลลาร์ไว้เฉยๆ ตั้งแต่ปี 2019 ตอนนี้ มูลค่าของเงินดอลลาร์ก้อนนั้น จะมีน้อยลงเกือบ 1 ใน 4
ในเวลาเดียวกัน ผลสำรวจยังพบว่า คนอเมริกันเป็นหนี้มากขึ้น ในการซื้อหาข้าวของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เนื่องจากสินค้าเหล่านี้ มีราคาแพงขึ้นมากมาย จนครัวเรือนทั่วไปในสหรัฐ ไม่สามารถซื้อหาสินค้าเหล่านั้นมาใช้ได้อีกต่อไป ส่วนใหญ่จึงเป็นหนี้ และทั้งหมดทั้งมวลก็มาจากปัญหาเงินเฟ้อ
สถิติเมื่อไม่นานมานี้ เกี่ยวกับหนี้บัตรเครดิตของคนอเมริกัน พบว่า คนอเมริกัน อายุ 18-64 ปี มีถึง 61% ในปี 2023 ที่ซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันโดยใช้บัตรเครดิต
ผู้ใหญ่ในสหรัฐ มีอยู่ 19% ต้องเอาเงินเก็บของตัวเองออกมาซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน และ 3.5% ใช้วิธีซื้อก่อนผ่อนทีหลัง
มีผู้ใหญ่ในสหรัฐ 20% ใช้บัตรเครดิตแต่ไม่สามารถจ่ายคืนหนี้แบบเต็มจำนวนได้ แต่ยังคงจ่ายคืนหนี้ขั้นต่ำได้อยู่บ้าง
แต่พอไปสำรวจกลุ่มคนอเมริกันที่มีความมั่นคงทางอาหารอยู่ในระดับต่ำมาก พบว่า มีอยู่ 25% ที่แม้กระทั่งหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำสุด ก็ยังจ่ายคืนไม่ได้เลย
หนี้สหรัฐพอกพูนทะลุ 34 ล้านล้านดอลลาร์ไปแล้ว หรือกว่า 1,200 ล้านล้านบาท บวกกับสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ทำให้ดอลลาร์สหรัฐมีอำนาจซื้อลดลง และจะยังเป็นเช่นนั้นต่อไปในอนาคต อีกทั้งตอนนี้ ยังมีหลายสกุลเงินผงาดขึ้นมาแข่งกับดอลลาร์ เพราะหลายภูมิภาคต้องการส่งเสริมสกุลเงินของตนเอง หลายประเทศจึงอาจถอยห่างจากดอลลาร์สหรัฐในระยะยาว ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป ดอลลาร์สหรัฐก็อาจหลุดจากการเป็นสกุลเงินสำรองของโลกได้ในอนาคต
By IMCT News
อ้างอิงจาก https://watcher.guru/news/purchasing-power-of-the-us-dollar-usd-declined-23-in-5-years