ขอบคุณภาพจาก RT
24/8/2024
อนาคตของอุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังเผชิญความท้าทายอย่างหนัก จากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนที่เพิ่มขึ้น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่ผลิตแผงโซลาร์มากเป็นอันดับสองของโลกรองจากจีน แต่ความตึงเครียดทางการค้าอาจเปลี่ยนชะตากรรมทุกสิ่ง
เมื่อไม่นานมานี้ ทางการสหรัฐกล่าวหาบริษัทจีนเลี่ยงภาษีโดยย้ายฐานการผลิตแผงโซลาร์ไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทชื่อดังบางแห่งของจีน เช่น Longi Green Energy และ Trina Solar เริ่มที่จะลดกำลังการผลิตลงในไทย เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา ซึ่งล้วนตกเป็นเป้าของสหรัฐ
สี่ประเทศนี้ถือเป็นศูนย์กลางพลังงานแสงอาทิตย์ของอาเซียน ครองสัดส่วนการผลิตแผงโซลาร์นอกผืนแผ่นดินจีน ถึง 40% การที่สหรัฐเตรียมขึ้นภาษี บริษัทหลายแห่งจึงพยายามหาตลาดอื่นแทนที่สหรัฐ นักวิเคราะห์มองว่า พวกเขายังอาจย้ายฐานการผลิตไปที่อื่น เช่น อินโดนีเซีย ลาว หรือตะวันออกกลาง
สถานการณ์ความผันผวนที่เกิดกับห่วงโซ่การผลิตพลังงานสะอาดนี้ เกิดขึ้น เพราะสหรัฐและยุโรปต้องการทวงส่วนแบ่งตลาดคืนมาจากจีน ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าครองอุตสาหกรรมผลิตอุปกรณ์โซลาร์เซลล์ และรถไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ ส่วนบริษัทโซลาร์เซลล์ของจีนเอง ก็กำลังรับมือกับการแข่งขันภายในประเทศที่มีสูงขึ้นและสินค้าล้นตลาด บริษัทขนาดเล็กหลายแห่งต้องพับเก็บกิจการไป
การสอบสวนของสหรัฐพบว่า มีผู้ผลิตของจีนบางแห่ง เลี่ยงภาษีนำเข้าโดยย้ายฐานการผลิตไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังสหรัฐเก็บภาษีแผงโซลาร์เซลล์ที่มาจากจีนโดยตรง เมื่อปี 2012 การที่จีนพยายามเลี่ยงภาษี ทำให้สหรัฐต้องเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมจากหลายบริษัทที่อยู่นอกเหนือแผ่นดินจีน
มีบริษัทในสหรัฐบางแห่ง ร้องขอรัฐบาลให้เก็บภาษีผลิตภัณฑ์โซลาร์เซลล์สูงถึง 272% ที่มาจากไทย เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา เทียบกับภาษีเดียวกันนี้ที่เก็บจากจีนเพียง 25% แต่รัฐบาลสหรัฐก็มีแผนจะเก็บเพิ่มเป็นเท่าตัว
สหรัฐใกล้จะนำมาตรการภาษีนี้ออกใช้แล้ว คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ เชื่อว่า ภาคการผลิตภายในประเทศสหรัฐ ได้รับอันตรายจากการนำเข้าสินค้าต้นทุนต่ำจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท Longi และ Trina ของจีนจึงเริ่มลดการผลิตลงในอาเซียน นักวิเคราะห์มองว่า โรงงานที่ตั้งในอาเซียนนานแล้ว อาจต้องปิดตัวลง แต่โรงงานที่เพิ่งเข้ามาตั้งในอาเซียนอาจอยู่รอด เพราะมีตลาดอื่นรองรับเช่น อินเดีย และยุโรป
การขึ้นภาษีอุปกรณ์โซลาร์เซลล์ที่มาจากอาเซียน อาจบังคับใช้ในต้นปีหน้า ทั้งที่สหรัฐยังไม่ได้ตรวจสอบว่า ภาคการผลิตแผงโซลาร์ในประเทศมีพอหรือไม่ มาตรการคุมเข้มสินค้าจีนยังมีต่อไป รวมถึงสินค้าจีนที่แค่ย้ายฐานการผลิตไปที่อื่น ยิ่งถ้าโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กลับมาเป็นผู้นำสหรัฐอีกครั้ง ก็อาจจะพุ่งเป้าไปยังประเทศที่สหรัฐขาดดุลการค้า รวมถึงหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
By IMCT News
อ้างอิงจาก https://evrimagaci.org/tpg/trade-tensions-cloud-future-of-southeast-asia-solar-industry-35120